สนทนาปัญหาธรรม วันอังคารที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๗
[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 302
อีกอย่างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสทุกข์ก่อน เพื่อให้เกิดความสังเวชแก่พวกสัตว์ผู้ยินดีและปรารถนาความสุขในภพ ตรัสสมุทัยในลำดับแห่งทุกข์นั้นเพื่อให้รู้ว่า ทุกข์ (สภาพธรรม) นั้น ตัณหามิได้สร้างแล้วย่อมไม่มา มันย่อมมีเพราะเหตุภายนอก มีพระอิศวรบันดาลก็หาไม่ ที่แท้มันย่อมมีเพราะตัณหานี้
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 27
๒. ปฐมปหานสูตร
ว่าด้วยทรงแสดงธรรมเพื่อละสิ่งทั้งปวง
[๒๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมเพื่อละสิ่งทั้งปวงนั้นแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังข้อนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมสำหรับละสิ่งทั้งปวงนั้นเป็นไฉน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ รูป จักษุวิญญาณ จักษุสัมผัส เป็นสิ่งที่ควรละ แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นสิ่งที่ควรละ ฯลฯ ใจ ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ มโนสัมผัส เป็นสิ่งที่ควรละ แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็เป็นสิ่งที่ควรละ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้แลเป็นธรรมสำหรับละสิ่งทั้งปวง.
จบ ปฐมปหานสูตรที่ ๒
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็รู้หนทางที่ลึกซึ้งว่า ถ้าไม่เห็นความลึกซึ้งของธรรม ประมาท ... ไม่มีทางที่จะประจักษ์แจ้งคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน
เพราะฉะนั้น จึงต้องเริ่มเห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งของสิ่งที่กำลังมีขณะนี้ ไม่ใช่ขณะอื่นเลย ค่อยๆ เข้าใกล้โดยการฟัง และเข้าใจว่า สิ่งที่พระองค์ตรัสไม่ได้ห่างไกลเลย เดี๋ยวนี้ทั้งหมด แต่ทำไมไม่ได้ประจักษ์แจ้งตามที่พระองค์ได้ทรงประจักษ์แจ้งแล้ว แต่พระองค์ประจักษ์แจ้งแล้วจึงทรงแสดงหนทางที่ลึกซึ้งอย่างยิ่งที่จะละความไม่รู้ความติดข้อง เพราะตราบใดที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ แล้วไม่รู้จึงติดข้อง เมื่อไม่รู้แล้วติดข้อง ก็ไม่ละ
เพราะฉะนั้น หนทางนี้ ก็คือว่า รู้ความจริงว่า ธรรมลึกซึ้ง นั่นเริ่มเข้าใจถูกต้อง เป็นหนทางที่จะศึกษาด้วยความเคารพอย่างยิ่งในความลึกซึ้ง และความเข้าใจนั่นแหละ ละความไม่รู้ เป็นหนทางละ หนทางอื่นไม่มี
จึงเข้าใจว่า อะไรเป็นอริยสัจจธรรมทั้ง ๔ แต่ละ ๑ๆ ๆ ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เช่น เดี๋ยวนี้ หนทางที่ฟังไตร่ตรอง เริ่มเข้าใจสิ่งที่พระองค์ตรัสซึ่งกำลังมีจริงๆ ในขณะนี้ในขั้นการฟัง ซึ่งจะเป็นหนทางที่ให้ประจักษ์แจ้งความจริงตรงตามที่ได้ฟัง
เพราะฉะนั้น หนทางนี้เป็นหนทางละ เพราะว่าอริยสัจจธรรมทั้ง ๔ เพื่อละ ไม่ใช่เพื่อติดข้อง ค่อยๆ มั่นคงในแต่ละคำ แม้แต่ในหนทางซึ่งเป็นอริยสัจจธรรม ก็ต้องไม่เผิน เพราะถ้าเผินก็จะรีบขวนขวายไปทำ แต่ว่าขณะนั้นไม่ได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะขณะนั้น ไม่ใช่คำของพระองค์ว่า ให้ใครไปทำ แต่สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้แหละ สามารถจะรู้ความจริงได้เมื่อได้ฟังคำที่พระองค์ทรงแสดงความจริงของสิ่งนั้น แล้วไตร่ตรองจนกระทั่งค่อยๆ เข้าใจขึ้นซึ่งไม่ใช่ขั้นประจักษ์แจ้งโดยรวดเร็ว แต่ว่ารู้ว่า หนทางนี้ลึกซึ้งอย่างยิ่ง จะถึงได้ด้วยการละความไม่รู้ และความติดข้องเท่านั้น
อ.คำปั่น: ไพเราะซาบซึ้งในความกรุณาของท่านอาจารย์อย่างยิ่งเลยครับ เป็นประโยชน์แล้วก็เป็นข้อความที่เป็นไปเพื่อให้มีความอดทนมีความเพียรที่จะศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพละเอียดยิ่งขึ้นต่อไปอีกครับ กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ
อ.อรรณพ: ไม่ต้องไปใส่ชื่อ ว่า เป็นบารมีหรือเปล่า ขณะนี้ก็เป็นประโยชน์ของการที่จะฟังเข้าใจ ฟังเข้าใจแล้วไตร่ตรองเข้าใจขึ้นอีก ขณะนี้กำลังเข้าใจก็หนทาง อริยสัจจ์ที่ ๔ ก็เริ่มต้นแล้ว ที่จะฟังสิ่งที่กำลังปรากฏ สมควรอย่างยิ่งที่จะรู้ รู้สิ่งที่ไม่จริงก็ไม่เป็นประโยชน์ แล้วจริงก็ต้องจริงเดี๋ยวนี้ แล้วก็เห็นถึงความเป็นไปของความติดข้องซึ่งจะนำไปให้ผิดทาง ฟังธรรมแล้วก็ เอ๊! จะได้อะไรอย่างนี้ เป็นต้น เป็นข้อเตือนใจหลายๆ ประการ กราบแทบเท้าท่านอาจารย์ครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลย สนทนานี่ไม่ใช่ว่าจะซ้ำเลยนะครับ ใหม่เสมอกับการสะสมอบรมความเข้าใจ
ขอเชิญอ่านได้ที่ ...
พระพุทธศาสนาเพื่อละ
ขอเชิญฟังได้ที่ ...
ศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจและเพื่อละ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลค่ะน้องเมตตา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านครับ