เรื่องการดูดวงทำไมตรงตามที่เราเป็นจริงแค่บอกวันเดือนปี รบกวนพอเข้าใจ

ขอเชิญอ่านที่นี่

การดูดวงและผู้ทายหรือทำนายได้ถูกมีจริงอย่างไร

การดูดวง ดูลายมือ และดูไพ่ยิบซี เป็นอกุศลรึเปล่า

ทุกวันนี้ทั้งคนทั้งมนุษย์ต่างพึ่งพาหมอดูกันมาก

เรื่องการดูดวง ทำไมตรงตามที่เราเป็นจริง เขาก็เอามาจากสถิติเป็นส่วนใหญ่ บางคนก็ตรงบางคนก็ไม่ตรง ไม่เสมอไปค่ะ แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุข มี ทรัพย์สินเงินทอง มีปัญญา เราก็ทำเหตุของชาตินี้ โดยการให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม ชาตินี้จะเป็นอนาคตของชาติหน้าค่ะ

Fortune-teller is the entertaining technique for fun. It has been practice for thousands of years. When you were told, telling and prediction about your future. Nevertheless you realize that it's really coming from within you, you are busy with your own thinking. The mechanics of learning some of these methods will keep anyone busy for years away from practicing for Kusala Dhamma. When you go to see fortune-teller, you are practicing Akusala Dhamma. They are the appearance of root cause, Lobha and Dosa switching back and forth leads by Moha along with Ahirika, Anottappa,Uddhaca and the whole gang of Annasamana Cetasikas. So you got to ask yourself, which path it is you like to take, Kusala or Akusala Dhamma. If you believe in doing the right thing is the cause and the result of the good-deed is the effect then you don’t need anyone to tell you. You will know your future with your own wisdom.

เจริญกุศลทุกประการ

การที่ทำนายถูกไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพราะดวงดาวหรืออะไร และก็เป็นเรื่องของสถิติที่อาจจะถูกบ้าง ผิดบ้าง ซึ่งในบางเรื่องที่ทำนายผิด เราก็ไม่ใส่ใจ แต่บางเรื่องที่ทำนายถูกเราก็ใส่ใจ สนใจในเรื่องนั้น จึงบอกว่าทำนายถูก ทั้งๆ ที่บางเรื่องไม่จริงก็มี ดังนั้นการทำนายรวมๆ ก็ต้องมีถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ตามธรรมดาแล้ว เราก็จะใส่ใจ ในสิ่งที่ถูกมากกว่าครับ และการที่ทำนายถูก ก็มีเหตุหลายประการครับ โดยที่ไม่ต้องอาศัยวัน เดือน ปีเกิด หรือฤทธิ์ครับ แต่อาศัยนิมิตจึงทำนายถูก หรืออาศัยเสียงวิตก วิจาร ก็สามารถทำนายถูก ซึ่งจะของแสดงในพระไตรปิฎก ลองอ่านดูนะ จะรู้ว่าที่ทำนายถูกเพราะอะไร

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ... ... ทำนาย [สังคารวสูตร]

เรื่อง การทำนายถูกเพราะ ถือนิมิต

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 263

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา สังคารวสูตร

เล่ากันมาว่า พระราชาพระองค์หนึ่ง ทรงกำแก้วมุกดา ๓ ดวงไว้แล้วตรัสถามปุโรหิตว่า ท่านอาจารย์อะไรอยู่ในมือของเรา. ปุโรหิตตรวจดูข้างโน้น ข้างนี้ และเวลานั้น มีตุ๊กแกตัวหนึ่ง วิ่งไปโดยตั้งใจว่าจักจับแมลงวัน ในเวลาจับแมลงวันหนีไปได้. เขาจึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช แก้วมุกดาพระเจ้าข้า เพราะความที่ (ถือนิมิต) แมลงวันหนีรอดไปได้. พระราชาตรัสถามต่อไปว่า ถูกละ แก้วมุกดา แต่ว่ามีกี่ดวง. ปุโรหิตตรวจดูนิมิตอีก เวลานั้นไก่ขันขึ้น ๓ ครั้ง ในที่ไม่ไกล. พราหมณ์กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชมี ๓ ดวงพระเจ้าข้า. บางคนทำนายนิมิตที่ผ่านมาแล้ว ดังพรรณมานี้. แม้โดยนิมิตที่ผ่านไปแล้ว และยังคงอยู่ ก็พึงทราบการทำนายโดยอุบายนี้.

เรื่องการทำนายถูกเพราะได้ยินเสียงวิตก วิจารของบุคคลผู้ตรึกตรองเข้าแล้ว

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ... ... การทำนาย [สังคารวสูตร]

ยินดีในกุศลจิตค่ะ