การอบรมเจริญสติปัฏฐานเป็นหนทางเดียวที่จะถึงการบรรลุอริยสัจจธรรม แต่คน สมัยนี้มุ่งแต่จะเจริญสติปัฏฐานโดยขาดความเข้าใจในหนทางจริงๆ ว่า สติปัฏฐานนั้น ไม่ใช่เกิดได้ด้วยความเป็นตัวตนที่จะไประลึกสภาพธรรม เพราะนั่นไม่ใช่กุศล แต่เป็นอกุศลเป็นความต้องการของตนเอง ในชีวิตประจำวันนั้นอกุศลเกิดมากกว่ากุศลมาก แค่ตื่นลืมตาขึ้นมาก็ติดข้องในรูปแล้ว แม้แต่ทานการให้ บางครั้งก็ยังไม่อาจสละได้ จะเห็นได้ว่าในวันหนึ่งๆ นั้นกุศลเกิดน้อยมาก และยิ่งเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาก็ ยิ่งเกิดยากเพราะปัจจัยที่ทำให้กุศลที่ประกอบด้วยปัญญายังน้อยมาก
ผู้ที่อบรมเจริญ สติปัฏฐานจึงควรตระหนักว่า จะมุ่งแต่อบรมเจริญสติปัฏฐานได้อย่างไร? ขั้นสติปัฏ- ฐานเป็นกุศลที่ประกอบด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่ง ในชีวิตประจำวันเกิดน้อยมากหรือไม่เกิดขึ้นเลย จึงต้องอาศัยบารมีทั้ง ๑๐ บารมีคือ คุณความดีที่จะกั้นอกุศล เพราะฉะนั้นทุกๆ บารมีจึงเป็นบริวารของปัญญาซึ่งก็ต้อง เริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ มีความจริงใจ ตั้งใจมั่น อดทนที่จะเข้าใจความจริง ซึ่งก็คือ ขันติบารมี อธิษฐานบารมี สัจจบารมี
ในชีวิตประจำวันมีความเป็นเพื่อน มีการสละสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น กุศลที่ค่อยๆ อบ รมให้มีขึ้น เพื่อกุศลจะได้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้นแทนอกุศล และไม่ควรประมาทอกุศลเพียงเล็กน้อย ความตระหนี่แม้เล็กน้อยยังไม่ยอมสละสื่งของเพื่อผู้อื่น แล้วจะสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น ไม่ควรคิดแต่อบรมเจริญ สติปัฏฐานเพียงอย่างเดียว โดยไม่อบรมเจริญบารมี ๑๐
ขออนุโมทนาค่ะ ...
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
จึงต้องอาศัยบารมีทั้ง ๑๐ บารมีคือ คุณความดีที่จะกั้นอกุศล เพราะฉะนั้นทุกๆ บารมีจึงเป็นบริวารของปัญญาซึ่งก็ต้อง เริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ มีความจริงใจ ตั้งใจมั่น อดทนที่จะเข้าใจความจริง ซึ่งก็คือ ขันติบารมี อธิษฐานบารมี สัจจบารมี
ในชีวิต ประจำวันมีความเป็นเพื่อน มีการสละสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น กุศลที่ค่อยๆ อบ รมให้มีขึ้น เพื่อกุศลจะได้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้นแทนอกุศล และไม่ควรประมาทอกุศลเพียงเล็กน้อย ความตระหนี่แม้เล็กน้อยยังไม่ยอมสละสื่งของเพื่อผู้อื่น แล้วจะสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่ควรคิดแต่อบรมเจริญ สติปัฏฐานเพียงอย่างเดียว โดยไม่อบรมเจริญบารมี ๑๐
ชัดเจนครับพี่เมตตา ขอบพระคุณที่ทำให้เข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้นครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพีเมตตาด้วยครับ
... ชีวิตประจำวัน มีความเป็นเพื่อน มีการสละสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น กุศลที่ค่อยๆ อบรมให้มีขึ้น เพื่อกุศลจะได้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เจริญขึ้นแทนอกุศล และไม่ควรประมาทอกุศลเพียงเล็กน้อย ความตระหนี่แม้เล็กน้อย ยังไม่ยอมสละสื่งของเพื่อผู้อื่น แล้วจะสละการยึดถือสภาพธรรม ว่าเป็นตัวตนได้อย่างไร
... ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ถ้าไม่เจริญกุศลทุกอย่าง หวังเพียงเจริญสติปัฏฐานอย่างเดียว เป็นไปไม่ได้ค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ