โทษของอกุศลดังลูกศรอาบยาพิษ
“ธรรมดากิเลสเหล่านั้น... หยาบคายร้ายแรง ควรละ ไม่ควรเอาไว้ คล้ายลูกศรอาบยาพิษ ก็ปานกัน”
ไม่ใช่ตัวตนที่นำกิเลสออก แต่เป็นปัญญา จากที่เคยคิดว่าอกุศลไม่ดี ไม่อยากมีก็มีความเข้าใจยิ่งขึ้นว่าอกุศลเป็นธรรม มีเพราะมีปัจจัยจึงเกิด เข้าใจถูกมั่นคงขึ้นว่าทุกอย่างที่ปรากฏเป็นธรรมตามที่ทรงแสดง
ข้อสำคัญที่สุด คือ เห็นโทษของอกุศลทั้งหมดว่าเป็นลูกศรอาบยาพิษหรือไม่ที่ปักอยู่กลางใจ เช่น ต้องวิ่งวุ่นวายด้วยอำนาจของโลภะ ซึ่งเป็นการแสวงหาความติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย วันหนึ่งๆ มากมายมหาศาลเพียงใด ซึ่งละเอียดไปแต่ละบุคคล เช่น ต้องการบริโภคเนื้ออร่อยคนทำอาหารก็ต้องหาอะไรมาทำอาหาร เพียงเพราะความสุขที่ชั่วคราวแล้วหมดไปคือ รสที่พอใจ ซึ่งตราบใดที่ไม่เห็นความไม่แน่นอน คือ ความไม่เที่ยง และเกิดดับของสภาพธรรม ก็จะไม่ละคลาย หรือหน่ายสิ่งที่ยึดติดมานานมาก ซึ่งไม่ใช่เพียงคำพูด แต่ต้องเป็นปัญญา
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากสัมพหุลภิกขุ สูตร..ข้อความเตือนสติเรื่องสัมพหุลภิกขุสูตร
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
คนทำอาหารก็ต้องหาอะไรมาทำอาหาร เพียงเพราะความสุขที่ชั่วคราว แล้วหมดไป คือ รสที่พอใจ ซึ่งตราบใดที่ไม่เห็นความไม่แน่นอน คือ ความไม่เที่ยง และเกิดดับของสภาพธรรม ก็จะไม่ละคลาย หรือหน่ายสิ่งที่ยึดติดมานานมาก ซึ่งไม่ใช่เพียงคำพูด แต่ต้องเป็นปัญญา ตราบใดที่ยังไม่เห็นอกุศลว่าเป็นอกุศล ก็ไม่สามารถละคลายอกุศลนั้นได้ แต่ต้องเป็นปัญญาที่เห็นว่าอกุศลเป็นอกุศล จึงจะละคลายอกุศลได้
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ คุณwittawat ด้วยค่ะ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ