ตอนที่บวชอยู่ ผมได้หยิบบุหรี่ของพระอีกรูป ซึ่งเป็นพี่ชายมาดูด ตอนที่เขาหลับ ผมเลยข้องใจว่าเป็น ปาราชิกไหม หลายอาทิตย์ต่อมา ผมเลยถาม พี่ชายว่าบุหรี่ที่ตั้งในกุฏ สามารถหยิบได้ไหม เขาบอกว่าหยิบไปเหอะ แบบนี้จะปาราชิกไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้า ครับ
ปาราชิก คือ ประเภทของโทษ ที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบท ประเภทครุอาบัติ อาบัติหนักที่สุด ที่เรียกว่าอาบัติปาราชิก พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบทก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ
ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่
1.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)
2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย)
3.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) หรือ แสวงหาศาสตรา อันจะนำไปสู่ความตายแก่ร่างกายมนุษย์
4.กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)
ซึ่งสำหรับในกรณีที่หยิบบุหรี่มา มูลค่าของนั้น จะต้องเกิน 5 มาสก ประมาณไม่เกินพันบาท จึงจะต้องอาบัติปาราชิก หากมีจิตลักขโมย เพราะฉะนั้น จึงไม่ถึงกับต้องอาบัติปาราชิก แต่เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
จะเป็นอาบัติปาราชิกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายละเอียด หลายข้อเช่น ทรัพย์ที่เจ้าของหวงแหน มูลค่าสิ่งของ เจตนาที่จะลัก เป็นต้น และจำนวนมูลค่าที่จะเป็นปาราชิกในข้อลักทรัพย์ ก็คือ ๕ มาสก (เทียบได้กับน้ำหนักทองคำ ๒๐ เมล็ดข้าวเปลือก ซึ่งอยู่ในราวหลายร้อยบาท) ถ้าราคาไม่ถึง ก็ไม่เป็นอาบัติปาราชิก แม้ว่าจะไม่ถึงอาบัติปาราชิก การหยิบของที่คนอื่นเขาไม่อนุญาตก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ
และที่น่าพิจารณาที่สุด คือ คำนึงถึงความเป็นพระภิกษุซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง บวชเพื่อศึกษาพระธรรม ขัดเกลากิเลส การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่พระองค์ทรงอนุญาต และไม่ประพฤติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ จะเห็นได้ว่า ความเดือดร้อนใจในภายหลังที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะไม่ได้คล้อยตามพระพุทธพจน์ ถ้าได้สำรวมตามสิกขาบทต่างๆ ที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ การต้องอาบัติน้อยใหญ่ ก็จะไม่เกิดขึ้น ก็จะไม่เป็นเหตุให้เดือดร้อนใจในภายหลัง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
5 มาสกเท่ากับ 1 บาทหรือเปล่าครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
นมัสการเรียน ความเห็นที่ 3 ครับ
สำหรับการเทียบราคาในปัจจุบัน มีการวินิจฉัยที่แตกต่างกันตามยุคสมัย แต่ที่ถือเป็นมาตรฐานทุกยุค คือ น้ำหนักทองคำกับข้าวเปลือก 20 เมล็ด คือ เอาข้าวเปลือก 20 เมล็ดมาชั่ง ได้น้ำหนักเท่าไหร่ น้ำหนักทองคำเท่านั้นตีเป็นเงินออกมา ในพระวินัยปิฎก อทินนาทานสิกขาบท ทรงปรับอาบัติปาราชิก แก่พระภิกษุที่ขโมยสิ่งของมูลค่า ตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป ซึ่งคำว่า 5 มาสกในยุคนั้น มีมูลค่าเท่าไหร่ ก็เป็นปัญหาของพระวินัยธร ที่ยากจะวินิฉัยว่าเป็นเงินกี่บาทในยุคนี้ ซึ่งในอรรถกถาและฎีกา ท่านก็มีหลักเทียบ ดังนี้ มูลค่าทองคำ น้ำหนักเท่ากับ 20 เมล็ดข้าวเปลือก ซึ่งมูลค่าของทองคำในแต่ละยุค ย่อมเปลี่ยนไปตามราคาตลาดที่เขาซื้อขายกัน ณ ปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น (2 พ.ค. 57)
ทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ราคากรัมละ 1,306.666 บาท
ข้าวเปลือก 20 เมล็ด มีน้ำหนัก 0.56 กรัม
ทองคำ 0.56 กรัม มีมูลค่า 731.732 บาท
ดังนั้น มูลค่าเงิน 5 มาสกในยุคนี้อันเป็นวัตถุแห่งอาบัติปาราชิกเป็นจำนวนเงิน 731.732 บาท การตีความดังกล่าวนี้อาศัยหลักของอรรถกถาและฎีกาที่ท่านสืบทอดพระวินัยมาตั้งแต่สมัยครั้งพุทธกาลครับ
ขอความคิดเห็นหน่อยครับ คือไปอ่านเจอ บางกระทู้บอกว่า 5 มาสก เท่ากับ 1บาท
ไม่ใช่เช่นนั้น ครับผม
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ