หากมีเจตนาเพียงแค่เบียดเบียน หรือประทุษร้ายสัตว์ ไม่มีเจตนาฆ่า เช่น ตีสุนัข ตีแมว ฯลฯ แต่ปรากฏว่าสุนัขหรือแมวนั้น เกิดป่วยและตายไปเนื่องมาจากการกระทำของเรา โดยที่เราไม่รู้มาก่อนว่ามันป่วย ในกรณีนี้ถือเป็นการทำปาณาติบาตที่สมบูรณ์หรือไม่ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปาณาติบาต มุ่งหมายถึง เจตนาที่ฆ่า ไม่ใช่เจตนาที่เบียดเบียน คือ เจตนาฆ่าสัตว์อื่นที่มีชีวิต เพราะฉะนั้น หากมีเจตนาเพียงทารุณ เบียดเบียน ไม่เป็นปาณาติบาต แม้สัตว์นั้นจะตายก็ตาม แต่เป็นอกุศลกรรมทางกายที่เรียกว่ากายทุจริตนั่นเอง ซึ่งมีโทษคือ ทำให้เกิดวิบากที่ไม่ดีได้ ผลของวิบาก คือ ทำให้ผู้นั้นอ่อนแอ เป็นโรคได้ง่าย เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ครับ ขออนุโมทนา
พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 287
องค์ของปาณาติบาตนั้น มี ๕ อย่าง คือ
๑.ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒.ปาณสัญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓.วธกจิตตัง มีจิตคิดฆ่า
๔.อุปักกโม มีความพยายาม
๕.เตนมรณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แม้ว่าจะไม่ถึงการฆ่าให้สัตว์อื่นสิ้นชีวิต แต่การเบียดเบียนประทุษร้าย จะด้วยกาย หรือ ด้วยวาจา
ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างแน่นอน เป็นการสะสมเหตุที่ไม่ดี เมื่อมีกำลังกล้าก็สามารถฆ่าผู้อื่นได้ ซึ่งจะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ถ้าเชื่อกรรมและผลของกรรมมีจริง ก็จะงดเว้นทุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจ และไม่ประมาทในกุศลธรรมทั้งหลายค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ