๑. ในขณะที่มีตากระทบสัมผัสบุคคลที่ทำผิดกับเรา และทำให้เกิดโทสะ พร้อมกับขณะนั้นสติพอจะรู้ทันว่าเกิดโทสะ แต่ก็มีการพูดเหน็บแนม ประชดประชัน ผู้ที่ทำให้เกิดโทสะ อย่างนี้จะเรียกว่าอย่างไร
๒. และที่พูดจาเหน็บแนมนั้นเพื่อที่จะให้บุคคลนั้นรับรู้ว่าเขาทำผิด อันนี้ เกิดอกุศลกรรมแล้วใช่มั้ยครับ
๓. และควรจะฝึกอบรมสติอย่างไรต่อดีครับ
กราบขอบพระคุณด้วยครับ
การพบปะกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักทำให้เกิดโทสะ ถ้าพูดออกไปด้วยวาจาด้วยเจตนาจะว่าหรือด่าเขาให้เจ็บเป็นผรุสวาจา เป็นอกุศลกรรมทางวาจา ควรศึกษาอบรมปัญญาต่อไป เพื่อการดับโทสะอันเป็นเหตุของทุกข์โทษทั้งหลายไม่ให้เกิดขึ้นอีกเลย คือ เป็นพระอนาคามี แต่ก่อนที่จะเป็นพระอนาคามี ต้องละความเห็นผิด ในนามธรรม - รูปธรรมเป็นพระโสดาบันก่อน
โลภะ โทสะ โมหะ เกิดจากการสะสมมานานในสังสารวัฎ เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อม โลภะโทสะก็เกิด พระพุทธองค์ทรงตรัส "ทุกอย่างล้วนเป็นธรรมะ" โทสะก็เป็นธรรมะไม่ใช่เรา ไม่ใช่คุณ caravanboy การฟังธรรมะบ่อยๆ จะค่อยๆ สะสมความเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ความเข้าใจถูกเป็นปัญญา การสะสมความเข้าใจถูกไปเรื่อยๆ จนเป็นความเข้าใจที่ถูกที่มั่นคงพอ สติระลึกรู้ว่าโทสะเกิด ความเข้าใจถูกว่า โทสะ เป็นธรรมะ จะทำหน้าที่ของเขาเอง (ปัญญาทำหน้าที่) ไม่ใช่เรา ความรู้สึกโกรธจะผ่อนคลาย เบา ไม่หนัก เพราะโกรธ ไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ แต่พอมีเหตุที่ต้องได้รับผลของอกุศลที่เคยทำมาแล้วในอดีต เช่น ได้ยินเสียงดัง กลิ่นเหม็น เห็นคนที่ไม่ชอบ โทสะก็เกิดอีก จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกต้องแล้ว จะมีแต่ความไม่เข้าใจ โกรธ โทษคนอื่น ซึ่งอาจล่วงออกมาทางกาย เช่น ทำร้ายร่างกาย ตบตีกัน เป็นต้น ทางวาจา เช่น ด่าทอ พูดเสียดสี เป็นต้น นั่นเป็นการสร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีก จิตก็สะสมอกุศลต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด ขอให้มีความอดทนที่จะฟังธรรมต่อไป เพราะธรรมะเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ