ทิ้งขยะอกุศล
โดย nattawan  18 ก.ค. 2566
หัวข้อหมายเลข 46277


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค

อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สนทนาปัญหาธรรม อัง.18/7/66

10:00-11:30น.

ขยะในจิตมากมาย ค่อยๆ ทิ้งขยะออกไปด้วยความเข้าใจความจริงขณะนี้

หนทางเดียวที่จะค่อยๆ รู้ความจริง "รู้สิ่งที่กำลังมีขณะนี้" จึงจะสามารถละความไม่รู้ได้

เมื่อเห็น ได้ยิน คิดนึก ฯลฯ แล้วไม่รู้ความจริงของเห็น ได้ยิน คิดนึก ฯลฯ เมื่อมีการปรากฏของสิ่งหนึ่งสิ่งใดแค่ขณะจิตเดียว แต่ความไม่รู้มากกว่าหลายเท่า (7ขณะ) ขยะของความไม่รู้ในความจริงของสิ่งที่มี เห็นก็ไม่รู้ความจริงของเห็น แล้วยังติดข้อง ขยะก็ล้นมากๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ขยะในจิตมากมาย ขยะความไม่รู้ เห็นแล้วไม่รู้ก็ขยะแล้ว โลภะเกิดก็ขยะแล้ว

ไม่อยากมีขยะ เมื่อนั้นก็เป็นขยะแล้ว แต่เข้าใจขยะ ความเข้าใจนั้นก็ทำให้ขยะค่อยๆ น้อยลง

หนทางหนึ่งหนทางเดียวคือความเข้าใจถูกต้องทีละขณะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายควรพิจารณาว่าจิตนี้เศร้าหมองเพราะราคะ โทสะ โมหะ มานานแล้ว ออกไม่ได้เลยเหมือนอยู่ในกำมือของราคะ โทสะ โมหะ ถูกแวดล้อม เบียดเบียน ครอบงำด้วยกิเลส ถ้าไม่เห็นโทษของกิเลสก็ไม่คิดจะละ ฟังธรรมให้เข้าใจเพื่อให้เห็นความลึกซึ้งของสภาพธรรมตามลำดับขั้น ธรรมะลึกซึ้งมากแม้ในลำดับขั้นของการฟัง ตรงตามพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมะว่างามในเบื้องต้น

ผู้เห็นคุณจริงๆ มีความอดทนไม่เปลี่ยนเป็นอื่น ไม่มีเราทำ มีความจริงให้รู้ได้เป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเพราะเกิดแล้วเพราะมีปัจจัยให้เกิดขึ้นและดับไป แต่ละคนแต่ละหนึ่งตามการสะสม ผู้เห็นประโยชน์จากพระธรรมก็จะได้รับประโยชน์จากพระธรรม

เริ่มรู้จักขยะ ถ้าไม่รู้ก็ไม่คิดจะกำจัดออกไป ต้องอดทนศึกษาพระธรรมต่อไป

กิเลสเป็นหยากเยื่อ (ขยะ) แห่งจิต

หยากเยื่อกล่าวคือกิเลสพันห้า

กิเลสเก่าก็มากแล้วยังสะสมกิเลสใหม่เป็นภูเขาเลากาจริงๆ

ไม่ชอบชื่อขยะ/ กิเลส แต่เวลาขยะ/ กิเลสเกิดก็เป็นไปกับขยะ/กิเลสเพราะไม่รู้ จะได้รู้ความจริงว่าธุลีเล็กน้อยมากจนกว่าจะเป็นขยะ มีขยะมาก เมื่อขยะลดลงจึงจะเปลี่ยนความคิดจากขยะเป็นเรื่องอื่น

มั่นคงจริงๆ ว่าความเข้าใจตรงตามความเป็นจริงเท่านั้นจึงจะค่อยๆ ละขยะได้ รู้เท่าทันว่าไม่มีใครทำอะไรได้เพราะธรรมะไม่ใช่เรา ความเข้าใจเริ่มทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เข้าใจมากขึ้น ต้องเป็นความเข้าใจจริงๆ เท่านั้น มั่นคงว่าไม่ใช่เราเป็นธรรมกำลังปรากฏ มีพื้นฐานมั่นคงนำไปสู่ความเข้าใจมากขึ้น ค่อยๆ รู้ ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ ละ

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 18 ก.ค. 2566

ยังไม่เห็นโทษ จนกว่าจะเห็นโทษ โทษคือพอใจยินดีในสิ่งที่ไม่มีแล้วไม่เหลือเลย พอใจในสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกระเช้าคนบ้าหรือมีความสุขบนกองอุจจาระ

ขยะที่มีความสำคัญว่าเป็นเรา มองไม่เห็นว่าเป็นขยะเลยเพราะเป็นเราที่ใฝ่ดี เราที่เข้าใจพระธรรม ขยะความเป็นเราเห็นได้ยาก ตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริงก็ต้องเป็นเราเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะไม่รู้จึงเป็นเราเป็นเขา ขยะไม่รู้ ขยะความเป็นเรา ขยะเพ่งโทษผู้อื่น

จิตสะสมขยะเก็บหมดไม่ไปไหนเลย ขยะที่สะสมในจิตสะสมโดยการแปดเปื้อนจิต เอาออกไม่ได้เลย ติดสนิทกับจิตเป็นคราบฝังแน่น ปัญญาจากการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าจนเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีขณะนี้จึงจะขจัดขยะออกจากจิตได้

จิตและเจตสิกเกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน จิตที่มีขยะ (เจตสิก) แปดเปื้อนก็แปดเปื้อนไป จิตเป็นปัณฑระไม่เป็นอกุศลใดๆ ทั้งสิ้น แต่แปดเปื้อนด้วยอกุศล สะสม หนาแน่น สกปรก แน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วยังชอบอีก สันตานะสะสมสืบต่อในจิตเป็นความสกปรกติดฝังแน่นในจิต

ธรรมะเตือนใจแด่คุณประมาท

**ขาดสัจจะบารมีไม่ได้ ตรงต่อความเป็นจริงจึงจะค่อยๆ เห็นโทษว่าเป็นโทษ ค่อยๆ รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ หนทางเดียวตรงตามพระพุทธเจ้าทรงประจักษ์แจ้งและทรงแสดง ฟังคำของพระองค์ต่อไป ไม่มีเรา ความเข้าใจก็มีเหตุให้เพิ่มขึ้นจากการฟังจึงต้องสะสม ธรรมะแต่ละหนึ่งไม่มีใคร ความเข้าใจก็ต้องทำหน้าที่ ค่อยๆ ละอกุศล มั่นคงไปเรื่อยๆ เป็นการสะสมบารมี (วิริยะบารมี เนกขัมมะบารมี ฯลฯ ) ขณะนั้นอกุศลเกิดไม่ได้

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาคณะวิทยากรและยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 18 ก.ค. 2566

ฆราวาสเป็นเพศคับแคบ เป็นที่มาแห่งธุลีคือกิเลสอกุศล ไม่อยากมีธุลีก็อยากเปลี่ยนจากเพศฆราวาสเป็นเพศบรรพชิต ซึ่งเป็นเพศที่เกษม ปลอดโปร่ง

ผู้มีปัญญาจึงจะเห็นโทษของเพศฆราวาสว่าคับแคบ

คับแคบคือคับแคบด้วยกิเลส ไปไหนไม่ได้ตั้งแต่ตื่นก็ต้องการ ติดข้อง แสวงหา ยึดถืออยู่มากมาย อกุศลสะสมหมักหมม แวดล้อมอยู่เสมอแคบจนไปไหนไม่ได้ โลภะ โทสะ โมหะ จนกว่าจะรู้ว่าคับแคบด้วยโลภะ โทสะ โทหะตลอด แคบแสนแคบ จึงจะสามารถออกไปได้ **ไม่เกี่ยวกับสถานที่แต่แคบอยู่ในกิเลส**

การจะละคลายอกุศลไม่ได้อยู่ที่เพศบรรพชิต ผู้เห็นภัยของกิเลสที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์

ภิกษุต้องศึกษาทั้งพระธรรมและพระวินัย และประพฤติตามพระธรรมวินัย จึงจะเป็นภิกษุในพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาคณาจารย์มศพ.ทุกท่านและยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 18 ก.ค. 2566

ขอบพระคุณ และยินดีในความดีด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย namarupa  วันที่ 19 ก.ค. 2566

ยินดียิ่งในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 19 ก.ค. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและยินดีในกุศลวิริยะของพี่ณัฐวรรณด้วยครับ


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 27 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ