พยาธิ เส้นด้าย ไส้เดือน ฯลฯ มีขันธ์ ๕ ครบไหมครับ
ถ้าไม่มีก็แล้วไปนะ แต่ถ้ามี จิดที่คิดจะกินยาถ่าย และทำตามนั้น
ก็เป็นการปลงชีวิตสัตว์ให้ล่วงไป
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัตว์มีชีวิต จำพวกพยาธิ เป็นสัตว์ที่มีชีวิตที่มีขันธ์ ๕ ครับ ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของมนุษย์ เป็นต้น หากมีเจตนาฆ่า ด้วยการทานยาถ่ายพยาธิที่ฆ่าพยาธิ ก็เป็นปาณาติบาต แต่ถ้า ไม่มีเจตนาฆ่า ทานยาถ่ายพยาธิที่เป็นชนิด ถ่ายพยาธิออกมาเท่านั้น ไม่ได้ไปฆ่า ก็ไม่เป็นปาณาติบาต เพราะ ไม่มีเจตนาฆ่า ครับ สำคัญที่เจตนาเป็นสำคัญ ซึ่ง ในประเด็นนี้ ได้กล่าวแล้วในกระทู้นี้ ครับ เชิญคลิก ... ศีลข้อ ๑
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา ครับ
ผมอยากเรียนถามท่านว่า กรรมอันใดหนอที่เป็นปัจจัยให้ต้องไปเกิดเป็น
พยาธิ ไส้เดือน กิ้งกือเหล่านั้นครับ
เรียนความเห็นที่ 2 ครับ
สำหรับ ไส้เดือน พยาธิ กิ้งกือ รวมทั้งสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย เกิดจาก ผลของอกุศลกรรม คือ การทำอกุศลกรรม ในอกุศลกรรมบถ ข้อใดข้อหนึ่ง ใน ๑๐ ข้อ ทำ ให้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้ ครับ
คือ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติ ผิดในกาม พูดเท็จ พูดหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ และ ความเห็นผิด เป็นต้น กรรมใดกรรมหนึ่ง อกุศลกรรมข้อใด ข้อหนึ่งที่กล่าวว่า ล้วนสามารถทำให้เกิดเป็น สัตว์เดรัจฉานได้ ทั้งนั้นครับ โดยไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะเป็นอกุศลกรรมข้อใด เพียงแต่ว่า สัตว์เดรัจฉานที่ตัวเล็ก ก็อาจเกิดจากอกุศลกรรมที่มีกำลังมากกว่า สัตว์เดรัจฉานที่มีตัวใหญ่ได้ ครับ ดังเช่น พระโพธิสัตว์ เมื่อจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน จะไม่เกิดเป็นสัตว์ที่เล็กกว่านกกระจาบ เป็นต้น ครับ
สรุปได้ว่า การเกิดเป็นสัตว์ เดรัจฉาน เป็นผลมาจาก อกุศลกรรมที่ทำมา ข้อใด ข้อหนึ่งตามที่กล่าวมาให้ผล ส่วน การเกิดเป็นสัตว์มีชีวิตเล็กๆ ก็เพราะ อกุศลกรรมบางอย่างที่มีกำลังกว่า อกุศลกรรมอื่นๆ ก็ได้ ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเกิดในภพต่างๆ นั้นเป็นผลของกรรมทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผลของกรรมอะไร ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมก็ทำให้เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมก็ทำให้เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดที่จะต้องศึกษาไตร่ตรองในเหตุในผล ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่มีชีวิต ทั้งหมด ตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั้น ต้องเป็นเกิดจากกรรม เท่านั้น ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีจิต เจตสิก รูป จึงจะเรียกว่า สิ่งมีชีวิต เมื่อกล่าวโดยรวมแล้ว ได้แก่ สัตว์ที่เกิดในภพภูมิต่างๆ อย่างเช่น ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ในสุคติภูมิ และ สัตว์ดิรัจฉาน ในอบายภูมิ เป็นต้น ล้วนเป็นสิ่งที่มีชีวิต เพราะเกิดขึ้นด้วยผลของกรรมการฆ่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เป็นปาณาติบาต แน่นอน เพราะสัตว์ ในที่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ต้องเป็นสัตว์มีชีวิตที่เกิดจากกรรม มีจิต มีเจตสิก และรูป เท่านั้นแม้แต่สัตว์เล็กๆ เช่น มด ปลวก ยุง พยาธิ เป็นต้น ก็เป็นสัตว์มีชีวิต เพราะเกิดจากกรรมซึ่งเป็นสัตว์ในอบายภูมิ
ถ้าฆ่าสัตว์เหล่านี้เมื่อใด ก็เป็นอกุศลกรรมบถ เมื่อนั้น ให้โทษแก่ผู้กระทำอกุศลกรรมโดยส่วนเดียว แต่ถ้าไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่า ก็ไม่เป็นปาณาติบาต ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
สาธุครับ ถ้าอย่างนั้น ถ้าพิจารณาตามวิสัยของพยาธิ
คือการชอบขลุกกับของเน่าเหม็นปฏิกูล ในภพชาติหนึ่งๆ จะเกี่ยวกันไหมครับ
เรียนความเห็นที่ 5 ครับ
ความชอบ คลุกกับของเน่าเหม็น เป็น โลภะ ที่เป็นอุปนิสัย ที่ไม่ใช่ผลของกรรม
ส่วน การได้รับกลิ่นเหม็นต่างๆ ในขณะที่ได้รับกลิ่นเหม็น เป็นผลของกรรมที่ไม่ดี
ทำให้ได้รับกลิ่นเหม็น ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอบพระคุณและอนุโมทนากับท่าน อ.ผู้ตอบกระทู้ และทุกท่านที่สนทนา ช่วยทำให้เราได้
ความเข้าใจเพิ่มขึ้น
ขออนุโมทนา