[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 160
ปฐมปัณณาสก์
โรหิตัสสวรรคที่ ๕
๓. ปฐมโกธสูตร
ว่าด้วยบุคคล ๔ จําพวก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 160
๓. ปฐมโกธสูตร
ว่าด้วยบุคคล ๔ จำพวก
[๔๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคล ๔ จำพวกคือใคร คือ บุคคลหนักในความโกรธ ไม่หนักในพระสัทธรรม ๑ บุคคลหนักในความลบหลู่ท่าน ไม่หนักในพระสัทธรรม ๑
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 161
บุคคลหนักในลาภ ไม่หนักในพระสัทธรรม ๑ บุคคลหนักในสักการะ ไม่หนักในพระสัทธรรม ๑ นี้แล บุคคล ๔ จำพวกมีปรากฏอยู่ในโลก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวก มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคล ๔ จำพวกคือใคร คือ บุคคลหนักในพระสัทธรรม ไม่หนักในความโกรธ ๑ บุคคลหนักในพระสัทธรรม ไม่หนักในความลบหลู่ท่าน ๑ บุคคลหนักในพระสัทธรรม ไม่หนักในลาภ ๑ บุคคลหนักในพระสัทธรรม ไม่หนักในสักการะ ๑
ภิกษุผู้หนักในความโกรธและความลบหลู่ท่าน หนักในลาภและสักการะ ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่งอกงามในพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว.
ส่วนภิกษุเหล่าใดหนักในพระสัทธรรมแล้ว และกำลังหนักในพระสัทธรรมอยู่ ภิกษุเหล่านั้นย่อมงอกงามในพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว.
จบปฐมโกธสูตรที่ ๓
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 162
อรรถกถาปฐมโกธสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมโกธสูตรที่ ๓ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า โกธครุ น สทฺธมฺมครุ ความว่า บุคคลถือความโกรธเป็นสำคัญ ไม่ถือพระสัทธรรม ย่อมถือพระสัทธรรม แต่ทำให้ไม่สำคัญ. แม้ในบทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน. บทว่า วิรูหนฺติ ได้แก่ ย่อมเจริญ หรือย่อมตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ด้วยศรัทธาที่เป็นมูลเกิดพร้อมแล้ว.
จบอรรถกถาปฐมโกธสูตรที่ ๓