การเจริญสติ หมายถึงการเจริญสติปัฏฐานใช่ไหมครับ
สติหรือสติปัฎฐานจะเจริญได้อย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การเจริญสติ หมายถึงการเจริญสติปัฏฐานใช่ไหมครับ การเจริญสติที่เรียกโดยทั่วไปก็หมายถึงการเจริญสติปัฏฐานนั่นเอง ซึ่งความหมายก็คือ การอบรมสติปัฏฐาน อบรมสติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้นและอบรมสติที่เกิดขึ้นแล้วให้
เกิดมากขึ้น ซึ่งถ้ามีความเข้าใจว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตน จึงไม่มีตัวเราที่จะเจริญสติ แต่สติเจริญคือเกิดขึ้นนั่นเอง สติค่อยๆ เกิดขึ้น เจริญขึ้น
อาศัยเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดสติปัฏฐานซึ่งเป็นหน้าที่ของธรรมไม่ใช่เราเจริญสติครับ
สติหรือสติปัฎฐานจะเจริญได้อย่างไรครับ
ธรรมทั้งหลายต้องอาศัยเหตุและปัจจัยจึงเกิดขึ้น สติปัฏฐานซึ่งเป็นการอบรมปัญญา ที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา การจะเกิดสติ และปัญญารู้ความจริงของสภาพธรรมก็ต้องอาศัยเหตุปัจจัยเช่นกันคือ การฟังธรรมให้ เข้าใจ เข้าใจว่าธรรมคืออะไร เริ่มจากพื้นฐานตรงนี้เพราะการเข้าใจว่าธรรมคืออะไร ก็ย่อมจะเป็นเหตุปัจจัยให้สติและปัญญารู้ความจริงว่าธรรมคือสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หากไม่เข้าใจว่าธรรมคืออะไร สติปัฏฐานย่อมเกิดขึ้นไมได้ เพราะไม่รู้ความจริงแม้ขั้นการฟังว่าธรรมคือขณะนี้ เป็นสิ่งที่มีจริง ก็ย่อมปฏิบัติผิดและ เข้าใจผิด สำคัญที่สุดคือฟังให้เข้าใจก่อนครับ เมื่อฟังเข้าใจมากขึ้น ปัญญาเจริญมาก ขึ้น จนมีความจำ (สัญญา) ที่มั่นคงว่าเป็นธรรมย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิดขึ้น และอาศัยการฟังเรื่องสภาพธรรมก็ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้สติที่เกิดขึ้นแล้วเจริญขึ้น แต่ ต้องไม่ลืมว่าการอบรมสติปัฏฐานก็มีเครื่องกั้นที่จะให้สติไม่เจริญ เช่น ความหวัง ความ ต้องการ เป็นต้น ดังนั้นสำคัญที่สุดอาศัยการฟังให้เข้าใจในเรื่องสภาพธรรมครับ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
สัญญา เป็นเหตุใกล้ของสติ
การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา [มหาจุนทเถรคาถา]
สติและปัญญาเกิดได้ เพราะอบรมเหตุที่ถูกต้อง
เหตุให้เกิด สติ และ ปัญญา (สัมปชัญญะ) คือ การพิจารณา [ตัณหาสูตร]
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคหรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเจริญสติปัฏฐาน เป็นการอบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่า เป็นธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ถ้าไม่อาศัยการฟังเรื่องของสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นปกติ บ่อยๆ เนืองๆ จนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นไปตามลำดับแล้ว ย่อมไม่ได้เหตุได้ปัจจัยให้สติเกิดขึ้นหรือเจริญขึ้นได้ เพราะเหตุว่าที่ตั้งให้สติระลึกและปัญญารู้ตรงลักษณะนั้น คือสภาพธรรมที่มีในขณะนี้นั่นเอง ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจ การเจริญสติปัฏฐาน เป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ในที่สุด เพราะฉะนั้น จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งให้สติและปัญญาเกิดขึ้น ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อการละคลายความยึดถือในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้ ดังนั้น หนทางเดียวที่จะเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย คือ การเจริญสติปัฏฐาน โดยเริ่มที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขออนุโมทนาค่ะ