พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้า ๑๙๒
หญิง คนหนึ่ง เป็นชาวบ้านกาฬุมพระ อุ้มลูกไปยังจิตตลบรรพต ด้วยคิดว่า จักฟังธรรม ให้ลูกนอนพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง ตนเองยืนฟังธรรม. ในระหว่างรัตติภาค (ตอนกลางคืน) งูตัวหนึ่งกัดเด็กที่นอนอยู่ใกล้ๆ นาง ทั้งๆ ที่ดูอยู่ เข้าสี่เขี้ยว แล้วหนีไป. นางคิดว่า ถ้าเราจักบอกว่า ลูกของเราถูกงูกัดไซร้ ก็จักเป็นอันตรายแก่การฟังธรรม เมื่อเรายังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏฏ์ เด็กคนนี้ ได้เป็นลูกของเรามาหลายครั้งแล้ว เราจักประพฤติธรรมเท่านั้น แล้วยืนอยู่ตลอดทั้ง ๓ ยาม ประคองธรรมไว้ ได้บรรลุโสดาปัตติผล เมื่ออรุณขึ้นแล้วทำลายพิษงูในบุตร ด้วยการทำสัจจกิริยา แล้วอุ้มบุตรไป คนเห็นปานนี้ ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ใคร่ในการฟังธรรม.
(จาก ... มโนรถปูรณี อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ฐานสูตร)
ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ไปสนทนาธรรมที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียร โดย สมาชิกบ้านธัมมะกลุ่มหนึ่งได้กราบเรียนเชิญท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ไปร่วม สนทนาธรรม ข้าพเจ้าขอนำบทสนทนาธรรมตอนหนึ่งมาลงไว้ให้พิจารณากัน ซึ่งท่าน อาจารย์บรรยายไว้เป็นเหตุเป็นผล ตรงตามพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ตรัสรู้ ท่านอาจารย์กล่าวว่าเราคิดเองไม่ได้ ธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้หนึ่งผู้ใดได้....
มีท่านหนึ่งเมื่อได้ฟังพระสูตรที่หญิงคนหนึ่ง ขณะฟังพระธรรมอยู่ แล้วเห็นงูกัดลูกตาย แล้วฟังธรรมจนจบ ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน ท่านผู้นี้บอกว่า ไม่ผ่าน ความเป็นแม่จะปล่อยให้ลูกถูกงูกัดตายได้อย่างไร? ท่านบอก ไม่ผ่าน ท่านอาจารย์ได้แสดงเหตุผลของสภาพธรรมที่เกิดขึ้น ตรงตามความเป็นจริง สภาพธรรมเกิดตามเหตุปัจจัย แต่ละคนสะสมมาไม่เหมือนกัน อย่างเราเป็นปุถุชน (หนา ด้วยกิเลส) เมื่อเห็นงูกัดลูก ก็อยู่ที่เหตุปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางท่านไม่ได้ ฟังพระธรรมก็ต้องร้องไห้ทุกข์ใจอย่างมาก แม้ผู้ที่สะสมความเข้าใจพระธรรม ก็แล้วแต่ กำลังปัญญาที่สะสมมา แล้วแต่เหตุปัจจัยจริงๆ อย่างหญิงชาวบ้านตามพระสูตรที่ได้ กล่าวถึงนั้น ท่านได้สะสมปัญญามามาก จนถึงใกล้ต่อความเป็นพระอริยบุคคล ท่าน เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม ท่านอาจารย์กล่าวว่า สภาพธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่ว่าหญิงชาวบ้านปล่อยให้งูกัดลูก แล้วตนเองฟังธรรมบรรลุความ เป็นโสดาบัน ท่านอาจช่วยลูกแล้วมีปัจจัยให้บรรลุธรรม หรือท่านไม่ได้ช่วยแล้วไม่มี ปัจจัยให้บรรลุธรรมก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่เมื่อมีเหตุถึงพร้อมที่ท่านจะบรรลุธรรม ท่านก็บรรลุธรรม แต่เรามักจะคิดเองถึงเรื่องราวว่าทำไมแม่ปล่อยให้ลูกถูกงูกัด เพราะเรายังมีความ ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคลอย่างเหนียวแน่น เพราะฉะนั้นการ ศึกษาพระธรรมควรที่จะฟังให้เข้าใจเหตุผลของพระธรรมตามความเป็นจริง โดยไม่คิด เอาเอง
ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
ในยุคนี้คงจะหาผู้ที่มีปัญญาและมั่นคงในเรื่องของเหตุปัจจัยไม่ได้เหมือนในยุคก่อนนั้น ทำให้เรื่องหลายๆ เรื่องในพระสูตร ทำความเข้าใจ และทำใจได้ยากจริงๆ ครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่าน ด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เรียนน้องผู้ร่วมเดินทาง
พี่เห็นด้วยค่ะว่า ในยุคนี้เรายังทำความเข้าใจ และทำใจได้ยากจริงๆ เพราะเรายังมี ความเข้าใจน้อยมาก ยิ่งในยุคนี้พระธรรมคำสอนถูกนำมาเผยแพร่คลาดเคลื่อนจาก ความเป็นจริงอย่างมาก ถ้าเรามีความเข้าใจเราก็คงไม่คิดเองต่อไปว่าทำไม แม่ถึง ปล่อยให้ลูกถูกงูกัด แต่จะมีความเข้าใจถึงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม ตามที่ พระผู้มีพระภาคทรงแสดง แต่ด้วยเรายังเป็นปุถุชน หากลูกเราถูกงูกัดบ้าง เราก็คง ต้องตกใจ รีบช่วยลูก เพราะยังมีกิเลสที่สะสมมาแต่อดีตอนันตชาติมากมาย ยังมี ความยึดมั่นในสัตว์ ในบุคคลในตัวตนอยู่มาก ต้องเป็นผู้ตรงต่อความจริง เรายังไม่ ได้สะสมปัญญามามากอย่างผู้หญิงในพระสูตร ฉะนั้น ขณะนี้เป็นขณะที่หาได้ยาก และยังได้มาพบกัลยาณมิตรอย่างท่านอาจารย์สุจินต์
ท่านกล่าวว่า ช่วยให้คนหมดความทุกข์ยากไม่มีวันที่จะช่วยได้หมด... แต่ช่วยให้เขาหมดกิเลส โดยต่อยๆ เข้าใจธรรมค่อยๆ ละคลายกิเลสทีละน้อยๆ กิเลสยังหมดได้.... ทั้งหมดเกิดจาก...ปัญญาความเห็นถูก
ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ค่ะ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิต อ.คำปั่นที่กรุณาค้นหาพระสูตรให้
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณผู้ร่วมเดินทาง และทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ทุกคนก็ต้องเริ่มจากการค่อยๆ สะสมความเข้าใจ ไม่ว่าท่านพระสารีบุตร ท่าน พระอานนท์ พระอริยบุคคลทุกๆ ท่านก็ต้องเริ่มจากการค่อยๆ สะสมอบรมเจริญปัญญา ท่านเหล่านั้นสะสมความเข้าใจธรรม ความจริงของธรรม ความเป็นอนัตตาของธรรม ตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง แม้จะยังไม่ได้ประจักษ์ความเป็นอนัตตาของธรรม แต่ เมื่อปัญญาซึ่งคือความเข้าใจนั่นเองคมกล้าขึ้น ความหวั่นไหวต่อเหตุการณ์ต่างๆ หรือ ความคิด ความตรึกในทางที่เป็นกุศล ของปุถุชนอย่างท่านทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมมี มากกว่าปุถุชนอย่างพวกเราที่ยังสะสมปัญญามาน้อย ถ้าย้อนไปในอดีตอันยาวนาน ท่านเหล่านั้นก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราขณะนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเริ่มสะสมความเข้า ใจ สะสมอบรมเจริญกุศลทุกประการ เพื่อสักวันหนึ่งปัญญาที่ได้อบรมค่อยๆ เจริญขึ้น จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้เหมือนอย่างพระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่านั้นค่ะ
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ