เมื่อเรามีสติ รู้สภาพธรรมบางเวลา เราต้องรู้เฉยๆ หรือต้องคิดต่อว่าเป็นแค่สภาวธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นและดับไปครับ บางทีผมก็คิดว่าเราแค่ตามดู หรือเราต้องลงด้วยไตรลักษณ์ ครับ ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปัญญา คือ รู้ ปัญญาไม่ใช่เฉยๆ ขณะที่เฉยๆ ไม่ได้รู้ความจริง ไม่ใช่ปัญญา ครับ ดังนั้น การละกิเลส ก็คือ รู้แล้วจึงละ แต่เฉยๆ เป็นโมหะ เกิดกับอุเบกขาเวทนา ความรู้สึกเฉยๆ ครับ ไม่ได้ละกิเลสอะไร ตามดูด้วยความไม่รู้ ก็เพิ่มกิเลสนั่นเองครับ นี่คือความละเอียดของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงครับ ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสััมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงในขณะนี้ นั่นเอง ที่จะเป็นที่ตั้งให้สติเกิดขึ้นระลึกตรงลักษณะและปัญญารู้ตามความเป็นจริง เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ไม่ใช่เรื่องหวัง ไม่ใช่เรื่องต้องการ ไม่ใช่เรื่องของความจดจ้อง ไม่ใช่เรื่องของการไปกระทำอะไร ด้วยความเป็นตัวตน ด้วยความเห็นผิด และด้วยความไม่รู้ แต่เป็นเรื่องของการอบรมเจริญปัญญาไปตามลำดับ ที่สำคัญ คือ ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ที่แสดงถึงสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทั้งหมด ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอขอบคุณมากครับ อนุโมทนาสาธุ
ขออนุโมทนาครับ