กรรมดีอันอาศัยสมบัติ ๔ ให้ผล คืออะไร? [นิทานสูตร]
โดย wittawat  11 ก.ค. 2567
หัวข้อหมายเลข 48109

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าจำแนกกรรมไว้โดยปริยายแห่งพระสูตร ๑๑ ประเภท โดยปริยายแห่งพระอภิธรรม ๑๖ ประเภท โดยปริยายแห่งปฏิสัมภิทามรรค ๑๒ ประเภท
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 133
กรรม ๑๖ อย่างตามแนวพระอภิธรรม
ส่วนพระอภิธรรมปริยาย ท่านจำแนกกรรมไว้ ๑๖ อย่าง. คือ
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อันคติสมบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อันอุปธิสมบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อันกาลสมบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อันปโยคสมบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อาศัยคติวิบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อาศัยอุปธิวิบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อาศัยกาลวิบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานชั่ว ลางอย่าง อาศัยปโยควิบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อันคติวิบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อันอุปธิวิบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อันกาลวิบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อันปโยควิบัติห้ามไว้ ยังไม่ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยคติสมบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยอุปธิสมบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยกาลสมบัติ ให้ผล ๑
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยปโยคสมบัติ ให้ผล ๑.


กรรมดีอันอาศัยสมบัติ ๔ ให้ผล คืออะไร?
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยคติสมบัติ ให้ผล ๑
แต่กรรมของผู้เกิดในสุคติภพด้วยกัลยาณกรรมนั้น ชื่อว่าอาศัยคติสมบัติให้ผล.
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยอุปธิสมบัติ ให้ผล ๑
คนทั้งหลายเห็นอัตภาพของผู้ที่เกิดในราชตระกูล หรือตระกูลของราชมหาอำมาตย์เป็นต้น ถึงอุปธิสมบัติ คือ ดำรงอยู่ในความเพรียบพร้อมแห่งอัตภาพ เช่นเดียวกับรัตนโดรณ (เสาระเนียดแก้ว) ที่เขาตั้งไว้ที่เทพนคร เห็นว่า คนผู้นี้เหมาะสมกับตำแหน่งอุปราช เสนาบดี หรือตำแหน่งขุนคลังเป็นต้น ถึงเขาจะยังหนุ่ม ก็ยอมให้ตำแหน่งเหล่านั้น. กัลยาณธรรมของคนเห็นปานนี้ ชื่อว่าอาศัยอุปธิสมบัติให้ผล.
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยกาลสมบัติ ให้ผล ๑
ผู้ใดเกิดในปฐมกัปก็ดี ในเวลาที่ข้าวน้ำหาได้ง่ายก็ดี กัลยาณกรรมของเขา ชื่อว่าอาศัยกาลสมบัติให้ผล.
- กรรมสมาทานดี ลางอย่าง อาศัยปโยคสมบัติ ให้ผล ๑.
ผู้ใดรู้เพื่อการประกอบความเพียร โดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแหละ กรรมของผู้นั้น ชื่อว่าอาศัยปโยคสมบัติให้ผล.


[สรุป]
ผู้ที่สงสัยว่ามีสวรรค์จริงหรือไม่ ข้อความใน ปายาสิราชัญญสูตร โดยสรุปกล่าวว่า พระยาปายาสิแสดงว่า ได้พูดกับญาติที่งดเว้นจากบาปการประพฤติทุจริตที่ล้มป่วยใกล้ตาย ถ้าเกิดในสวรรค์ให้กลับมาบอก คนเหล่านั้นรับคำ แต่ไม่มีใครกลับมาบอก และไม่ส่งคนมาบอกด้วย ท่านจึงไม่เชื่อว่าสวรรค์มีจริง ท่านพระกุมารกัสสปแสดงว่า ใครที่เคยตกบ่ออุจจาระแล้วล้างตัวสะอาดแล้วจะกระโดดกลับมาที่บ่ออุจจาระไหม มนุษย์ก็ฉันนั้นกลิ่นเหม็น น่าเกลียด กลิ่นมนุษย์คลุ้งขึ้นไปถึงเทวดาตั้งร้อยโยชน์ แม้ในเวลาบนสวรรค์ เช่น ดาวดึงส์ ๑ วัน ๑ คืนก็เท่ากับร้อยปีมนุษย์ เทวดามีอายุพันปีทิพย์ ถ้าเทวดาคิดจะบริโภคกามสัก ๒ วัน ๒ คืนค่อยกลับไปบอก มนุษย์ทั้งหลายก็ตายไปแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าต้องการพิสูจน์เรื่องสวรรค์มีจริงหรือไม่ ก็ขอให้เป็นผู้ไม่ประมาทในกุศลธรรม ทำความดีและเมื่อไปเกิดที่นั่นก็จะทราบเอง
ขอกราบอนุโมทนา