การศึกษาตามหลักคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต้องเป็นไปตามลำดับ กล่าวคือ ผู้ศึกษาต้องฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก่อน ซึ่งเป็นการศึกษาในขั้นของปริยัติ (ปริยัติ หมายถึง การรอบรู้ในพระธรรมคำสอน)
ถ้าหากไม่ฟังแล้วความเข้าใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? เมื่อฟังเข้าใจแล้ว จึงมีการน้อมประพฤติปฏิบัติตามคำสอน (ซึ่งไม่มีตัวตนที่ปฏิบัติแต่เป็นธรรมปฏิบัติหน้าที่ของธรรม คือ สติและปัญญาเกิดขึ้น ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ) เมื่อปฏิบัติตามคำสอนจึงจะมีผลคือการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมละกิเลสได้ตามลำดับขั้น (เป็นขั้นปฏิเวธ คือการแทงตลอด การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม) ปฏิเวธจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง และการปฏิบัติอย่างถูกต้องจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีการศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างถูกต้อง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 402
ข้อความบางตอนจาก ปหาราทสูตร
ปหาราทอสูรทูลว่า. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในธรรมวินัยนี้ มีธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาสักเท่าไร ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้ว จึงอภิรมย์อยู่.
พระพุทธเจ้าตรัสว่า มี ๘ ประการ ปหาราทะ ๘ ประการเป็นไฉน ดูก่อน ปหาราท มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ ไม่โกรกชันเหมือนเหว ฉันใด ในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีการศึกษาไปตามลำดับ มีการกระทำไปตามลำดับ มีการปฏิบัติไปตามลำดับมิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตตผลโดยตรง
ดูก่อนปหาราทะ ข้อที่ในธรรมวินัยนี้มีการศึกษาไปตามลำดับ มีการกระทำไปตามลำดับมีการปฏิบัติไปตามลำดับ มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตตผลโดยตรงนี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ ๑ ในธรรมวินัยที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่.
จะเห็นว่าการบรรลุธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ก็ต้องเป็นไปตามลำดับ ซึ่งข้อความในอรรถกถาอธิบายว่าการบรรลุธรรมไม่ใช่เหมือนกับกบก้าวกระโดด แต่ต้องเป็นไปตามลำดับคือต้องเป็นพระโสดาบัน เป็นพระสกทาคามี เป็นพระอนาคามีและจึงถึงความเป็นพระอรหันต์ครับ แต่ก่อนจะถึงความเป็นพระโสดาบัน ปัญญาก็ต้องค่อยๆ เจริญตามลำดับคือ ได้วิปัสสนาญาณขั้นต่างๆ และก่อนถึงวิปัสสนาญาณ ก็ต้องเจริญสติปัฏฐานจนทั่วทั้ง 6 ทวาร และก่อนจะถึงการเจริญสติปัฏฐานก็จะต้องอบรมปัญญาขั้นการฟังให้มากพอครับ ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากปัญญาขั้นต้นคือการฟังให้เข้าใจ เริ่มจากคำว่าธรรมคืออะไร การศึกษาและอบรมปัญญาจึงเป็นไปตามลำดับตามที่กล่าวมา ดังเช่น มหาสมุทรก็ค่อยๆ ลาดลุ่มไปตามลำดับ ดังเช่นที่พระพุทธองค์ได้อุปมาไว้ครับ
แม้กิเลสก็ต้องละเป็นลำดับ การศึกษาและปัญญาจึงเป็นไปตามลำดับเช่นกันครับ จะละโลภะ โทสะทันทีไม่ได้ ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่การศึกษาเป็นลำดับ แต่กิเลสที่ละเป็นอันดับแรก คือ การยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล ยึดถือว่าเป็นเรา ดังนั้น การศึกษาเป็นลำดับ ปัญญาที่เจริญเป็นลำดับแรกคือ การฟังให้เข้าใจว่าขณะนี้มีแต่ธรรม ไม่ใช่เรา จนถึงปัญญาที่เกิดพร้อมสติระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา การฟังพระธรรมที่ค่อยๆ เข้าใจก็เป็นปริยัติ จนถึงสติและปัญญาเกิดรู้ความจริงก็เป็นปฏิบัติ และการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็เป็นปฏิเวธ ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงเป็นเรื่องของเหตุผลและเป็นการศึกษา อบรมปัญญา ละกิเลสไปตามลำดับครับ
การศึกษาไปตามลำดับ จึงหมายถึง เริ่มจากการฟังให้เข้าใจ ซึ่งสิ่งที่ควรศึกษาให้เข้าใจ ในขั้นการฟัง เป็นเบื้องต้นที่สำคัญ คือ คำว่า ธรรม คืออะไร เพื่อให้เข้าใจถูกในเบื้องต้นว่ามีแต่ธรรม ศึกษาเพื่อเข้าใจธรรม ก็ย่อมน้อมไปสู่การปฏิบัติ ที่เป็นการศึกษาสิกขา ในขั้นปฏิบัติธรรม ส่วนเมื่อมีความเข้าใจถูกเบื้องต้นในขั้นการฟังในเรื่องสภาพธรรมแล้ว ก็สามารถศึกษาธรรมส่วนอื่นๆ ได้ ไม่จำกัด เพียงแต่ว่าจะต้องตั้งจิตไว้ชอบ ให้เข้าใจว่า ศึกษาไม่ว่าเรื่องใด ก็เพื่อเข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้ และเป็นไปเพื่อละคลายกิเลสเป็นสำคัญ ครับ
ปัญญา เป็นพืชที่โตช้ามาก ถ้าหากไม่เริ่มสะสมไปทีละเล็กทีละน้อย ก็จะไม่สามารถถึงความเจริญสมบูรณ์พร้อมได้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงควรอย่างยิ่งที่แต่ละบุคคล จะเห็นประโยชน์ของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในภพนี้ชาตินี้ ที่ได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาว่า การที่จะมีโอกาสได้ฟังพระธรรมในภพนี้ชาตินี้ จะเหลืออยู่อีกเท่าใด ปัญญาต้องอบรมเจริญขึ้น โดยไม่ต้องรอ และพระธรรมก็เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก การมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษา สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ย่อมเป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเข้าใจที่ได้สะสมไว้ไม่สูญหายไปไหน มีแต่จะเจริญมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า การฟังในครั้งหลังๆ เทียบกับการฟังครั้งแรกๆ ไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าความรู้ความเข้าใจจะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ นั่นเอง ครับ.
การศึกษาในทุกส่วนย่อมเป็นประโยชน์ เพราะพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำมีค่า และมีประโยชน์ จึงสามารถศึกษาในส่วนใดก็ได้ หากมีความเข้าใจพื้นฐานในเรื่องสภาพธรรมในขั้นการฟังถูกต้องแล้ว แต่จะต้องศึกษาด้วยจุดประสงค์ที่ถูกต้องย่อมจะเดินไปตามลำดับที่ถูกต้อง ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม ได้ที่นี่ครับ
การศึกษาต้องตามลำดับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
อนุโมทนาค่ะ
สาธุคะขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ