สัปปุรุษ และ อสัปปุรุษ
โดย chatchai.k  21 ต.ค. 2565
หัวข้อหมายเลข 44818

ใน อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต สัปปุริสวรรค ที่ ๑

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัปปุรุษ และอสัปปุรุษผู้ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ สัปปุรุษ และสัปปุรุษผู้ยิ่งกว่าสัปปุรุษแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

ข้อความที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้มีว่า

อสัปปุรุษนั้น เป็นผู้ที่ไม่มีศีล เป็นผู้ที่ฆ่าสัตว์ เป็นต้น และอสัปปุรุษผู้ยิ่งกว่า อสัปปุรุษนั้น ก็เป็นผู้ที่นอกจากเป็นผู้ที่ไม่มีศีล ฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ผิดศีลข้ออื่นๆ ด้วยตนเองแล้ว ก็ยังชักชวนผู้อื่นให้ผิดศีล ถ้าผู้ใดนอกจากตัวเองจะกระทำอย่างนั้น แล้ว ยังชักชวนให้ผู้อื่นกระทำด้วย ผู้นั้นเป็นอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ

ถ้าเป็นสัปปุรุสก็เป็นผู้ที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นต้น และสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าสัปปุรุษ คือ นอกจากบุคคลนั้นจะงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง ยังชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ และให้เป็นผู้ที่มีศีลประการอื่นๆ ด้วย

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัปปุรุษ และอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ สัปปุรุษ และสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าสัปปุรุษแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็อสัปปุรุษ เป็นไฉน

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ มีสุตะน้อย เป็นคนเกียจคร้าน มีสติหลงลืม มีปัญญาทราม บุคคลนี้เราเรียกว่า อสัปปุรุษ

ผู้ที่เป็นเช่นนี้จะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ ผู้ที่มีสติหลงลืม หรือว่าเป็นผู้ที่มีสุตะน้อย มีปัญญาทราม

ส่วนอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ เป็นไฉน

คือนอกจากจะเป็นบุคคลที่ไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตัปปะ มีสุตะน้อย เป็นคนเกียจคร้าน มีสติหลงลืม มีปัญญาทราม ด้วยตนเองแล้ว ก็ยังชักชวนบุคคลอื่นให้เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตัปปะ ให้มีสุตะน้อย ให้เป็นคนเกียจคร้าน ให้มีสติหลงลืม ให้เป็นผู้มีปัญญาทราม บุคคลนั้นเป็นอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษทั้งหลาย

เพราะฉะนั้น จะให้ไม่เจริญสติจะได้ไหม จะเป็นหนทางที่จะให้ผู้นั้นรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ไหม ไม่ได้ อย่าเข้าใจผิดในการเจริญสติปัฏฐาน และอย่าชักชวนบุคคลอื่นให้หลงลืมสติด้วย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้นั้นเป็นอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่า อสัปปุรุษ

ส่วนสัปปุรุษ ก็โดยนัยตรงกันข้าม และสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าสัปปุรุษนั้น นอกจากตนเองจะมีศรัทธา มีหิริ มีโอตตัปปะ เป็นพหูสูต ปรารภความเพียร มีสติ มีปัญญาแล้ว ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นผู้ที่มีศรัทธา มีหิริ มีโอตตัปปะ เป็นพหูสูต ปรารภความเพียร มีสติ มีปัญญาด้วย

ข้อความต่อไป

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็อสัปปุรุษ เป็นไฉน

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความเห็นผิด มีความดำริผิด ฯลฯ และเป็นมรรคอื่นๆ ครบทั้ง ๘ องค์ คือ ตั้งแต่มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ

บุคคลนี้เราเรียกว่า อสัปปุรุษ

ส่วนอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ คือ นอกจากตนเองมีความเห็นผิด ดำริผิดในมรรคมีองค์ ๘ แล้ว ยังชักชวนผู้อื่นให้มีความเห็นผิด มีความดำริผิด เจริญมรรคที่เป็นมิจฉามรรค

ข้อความต่อไป

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็อสัปปุรุษ เป็นไฉน

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ที่มีมรรค ๘ ผิด ก็ยังเป็นผู้ที่มีความรู้ผิด เป็นผู้มีความพ้นผิด

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้เราเรียกว่า อสัปปุรุษ

ส่วนผู้ที่เป็นอสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าอสัปปุรุษ นอกจากตนเองจะเจริญมรรคผิด รู้ผิด พ้นผิดแล้ว ยังชักชวนบุคคลอื่นให้เจริญมรรคผิด รู้ผิด และพ้นผิดด้วย

ส่วนสัปปุรุษ และสัปปุรุษที่ยิ่งกว่าสัปปุรุษก็โดยนัยตรงกันข้าม นอกจากนั้นพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงลักษณะของคนชั่ว และคนชั่วที่ยิ่งกว่าคนชั่ว คนดี และคนดีที่ยิ่งกว่าคนดี บุคคลผู้มีธรรมอันลามก และบุคคลผู้มีธรรมอันลามกที่ยิ่งกว่าบุคคลผู้มีธรรมอันลามก บุคคลผู้มีธรรมอันงาม และบุคคลผู้มีธรรมอันงามที่ยิ่งกว่าบุคคลผู้มีธรรมอันงาม

เป็นเรื่องที่ท่านผู้ฟังจะต้องพิจารณาไตร่ตรองว่า ผู้ใดชักชวนให้ท่านเจริญสติ หรือผู้ใดชักชวนให้ท่านหลงลืมสติ ก่อนที่จะไปรู้ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ ใครเป็นพระอนาคามี ใครเป็นพระสกทาคามี ใครเป็นพระโสดาบัน เพียงแต่หนทางข้อปฏิบัติ ท่านก็ควรจะพิจารณาไตร่ตรองว่า ผู้นั้นเป็นสัปปุรุษ หรือว่าอสัปปุรุษ


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 176

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 177