[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 510
เถราปทาน
พันธุชีวกวรรคที่ ๑๖
ตัมพปุปผิยเถราปทานที่ ๒ (๑๕๒)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาต้นโพธิ์
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 510
ตัมพปุปผิยเถราปทานที่ ๒ (๑๕๒)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาต้นโพธิ์
[๑๕๔] เราเป็นผู้ประกอบในการทำการงานของบุคคลอื่น ได้ทำ ความผิดเพียบพร้อมด้วยภัยและเวร จึงวิ่งหนีไปตามชายป่า.
ได้เห็นต้นไม้มีดอกเป็นกลุ่มก้อนบานสะพรั่ง จึงถือเอา ดอกมีสีแดง ไปเกลี่ยลงที่โพธิพฤกษ์.
ได้กวาดไม้แคฝอย อันเป็นไม้โพธิ์อันอุดมนั้นแล้ว เข้า ไปนั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ที่โคนโพธิ์.
ชนทั้งหลายแสวงหาทางไปอยู่ ได้มาสู่ที่ใกล้เรา และเรา เห็นชนเหล่านั้น ณ ที่นั้นแล้ว คำนึงถึงโพธิพฤกษ์อันอุดม.
และเรามีใจผ่องใส ไหว้โพธิพฤกษ์แล้ว ตกลงในเหวที่ น่ากลัว อันลึกหลายชั่วลำตาล.
ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้บูชาโพธิพฤกษ์ด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชา โพธิพฤกษ์.
และในกัปที่ ๓ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ทรงพระนามว่าสัมมสิตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 511
ทราบว่า ท่านพระตัมพปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบตัมพปุปผิยเถราปทาน
๑๕๒. อรรถกถาตัมพปุปผิยเถราปทาน
อปทานของท่านพระตัมพปุปผิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปรกมฺมายเน ยุตฺโต ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ท่านก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้า พระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปิยทัสสี เพราะอกุศลกรรมบางอย่างที่ท่านกระทำไว้ในปางก่อน จึงได้ มาเกิดในตระกูลเข็ญใจ เจริญวัยแล้ว ก็ทำการงานรับจ้างคนอื่นเลี้ยง ชีวิต. เขาอยู่ด้วยความทุกข์ยากอย่างนี้ ยังได้ทำความผิดกับคนอื่นอีก เพราะความกลัวตาย จึงหนีเข้าป่า. เขาได้เห็นต้นแคฝอยและต้นโพธิ์ ในที่ที่ไปแล้วนั้น จึงได้ไหว้แล้ว กวาดเสร็จแล้วมองเห็นดอกไม้มีสีแดง ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง จึงเลือกเก็บเอาดอกกรรณิการ์มาทำการบูชาต้นโพธิ์ ทั้งหมดนั้น. เขาทำจิตให้เลื่อมใสในต้นโพธิ์นั้น ไหว้แล้วก็นั่งคู้บัลลังก์. ในขณะนั้น พวกมนุษย์เหล่านั้นไล่ติดตามมาตามรอยเท้า ได้มาถึงในที่นั้น แล้ว. เขาพอได้เห็นคนเหล่านั้นแล้ว ก็รำพึงถึงต้นโพธิ์พลางวิ่งหนี ตกลงไปตายในเหวลึกแห่งภูเขาอันน่ากลัวแล้ว.
ด้วยปีติและโสมนัสเพราะระลึกถึงการบูชาต้นโพธิ์นั้นนั่นแล เขาจึง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 512
ได้ไปเกิดในสวรรค์มีชั้นดาวดึงส์เป็นต้น ได้เสวยสมบัติในกามาวจร ๖ ชั้น แล้ว ได้มาเกิดในมนุษย์ เสวยสมบัติมีจักรพรรดิสมบัติเป็นต้นแล้ว ใน พุทธุปบาทกาลนี้ ได้มาเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยสมบัติ เจริญวัยแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีใจเลื่อมใสได้บวชแล้ว ไม่ นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ ระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความ โสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาล ก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปรกมฺมายเน ยุตฺโต ดังนี้. พึงทราบ เนื้อความในบทเหล่านั้นว่า การงานของคนเหล่าอื่น ชื่อว่า การงานของ คนอื่น. เราได้เป็นผู้ประกอบตระเตรียมแล้ว ในทางการงานของคนอื่น. คำที่เหลือปรากฏชัดแจ้งแล้วแล.
จบอรรถกถาตัมพปุปผิยเถราปทาน