กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

เมื่อวันอาทิตย์ได้ฟังการสนทนาธรรมบางช่วงบางตอนที่อาจารย์วิทยากร (อ.ณภัทร) กล่าวว่า "...ที่ผ่านมามีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดมากมายหลายพระองค์แล้ว แต่เราก็ยังอยู่ตรงนี้ อยู่กันแบบนี้..."

ฟังข้อความนี้แล้วก็เกิดสังเวชใจเป็นอันมาก ใคร่ครวญซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายวัน เป็นความจริงที่ยังต้องมีโลกทางตายังต้องเห็น เมื่อเห็นก็ไม่สักแต่ว่าเห็น เมื่อเห็นก็เป็นเรา มีเราที่เห็น เป็นคนดื้อ เป็นคนโง่ที่แม้จะมีโอกาสทองได้ฟังพระธรรมแต่ก็ยังไม่เคยได้เข้าใจว่าไม่ใช่เรา น่าสังเวชใจแก่ตนเองเสียจริงๆ

กราบเท้าท่านอาจารย์ฯครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 266

[๖๘๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ... คนเขลาย่อมเข้า ถึงครรภ์บ่อยๆ สัตว์ย่อมเกิดและตายบ่อยๆ บุคคลทั้งหลายย่อมนำซากศพไปป่าช้า บ่อยๆ ส่วนผู้มีปัญญาถึงจะเกิดบ่อยๆ ก็ เพื่อได้มรรคแล้วไม่เกิดอีก ดังนี้

เมื่อได้ศึกษาธรรมโดยละเอียดจะรู้ว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยากมากครับ เมื่อ ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ได้มีโอกาสพบพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็เป็นสิ่งที่ยาก มากเข้าไปอีก และเมื่อได้พบพระธรรมแล้ว เป็นผู้สนใจในหนทางที่ถูกต้องและมีศรัทธา ในพระธรรมที่ถูกต้องยิ่งยากขึ้นไปกว่านั้น แต่ขณะนี้ก็ถึงพร้อมแล้วในสิ่งที่กล่าวมา พระพุทธองค์ตรัสว่า ขณะอย่าล่วงเลยพวกท่านไปเสีย เพราะบุคคลที่ล่วงเลยขณะไป ย่อมพากันยัดเยียดกันในนรกครับ ดังนั้นขณะอย่าล่วงเลยไป คือ ขณะที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมและขณะที่ปัญญาเจริญขึ้นนั่นเองครับ

เพราะฉะนั้น เกิดมาทำไม เกิดมา เพราะ มีกิเลส และ ต้องได้รับกรรม และ ผลของ กรรมที่ทำไว้ และ ยังจะต้องเกิดอยู่ร่ำไป การเกิดก็เพราะเป็นทุกข์ เพราะต้องได้รับ ทุกข์กาย และ ทุกข์ใจ ดังนั้น เมื่อเกิดมาแล้ว ควรแสวงหา หนทางพ้นทุกข์ ดังเช่น พระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ และ ทรงแสดงธรรม ควรที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่จะอบรมปัญญาเพื่อละกิเลส ไม่ต้องเกิดอีก และ สะสมกุศลทุกๆ ประการ ที่จะเป็น เสบียงในการเดินทางไกลในสังสารวัฏฏ์ที่จะต้องเกิดอีกมากมาย จนกว่าจะไม่เกิดอีก เมื่อดับกิเลสหมดสิ้น ด้วยการศึกษาพระธรรม

ขออนุโมทนา

อนุโมทนาค่ะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าไม่ได้เริ่มฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ก็จะต้องท่องเที่ยววนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีวันจบสิ้น เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดต่อไป แต่สำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์เห็นคุณค่าของการได้เข้าใจความจริง ค่อยๆ พ้นจากความมืดมิดด้วยอวิชชาไปทีละเล็กทีละน้อย จึงฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญยิ่งที่จะเป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย สะสมเป็นที่พึ่งต่อไปจนกว่าจะถึงความสมบูรณ์ของปัญญาในที่สุดซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

เรียน อ.เผดิมครับ

ได้อ่านที่ อ.กรุณาชี้แจงแล้ว

ซาบซึ้งใจมากจริงๆ

แม้จะไม่เกิดปัญญาความเห็นถูกขึ้นได้ในชาตินี้ แต่ก็เชื่อว่าการขวนขวายที่จะฟังและศึกษาในพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าในชาติที่ถึงพร้อมด้วยโอกาสย่อมสั่งสมและบังเกิดผลได้แน่ในอนาคตกาล

ขอกราบอนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาครับ