ผู้งมงาย
โดย prakaimuk.k  8 มิ.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 8838

ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๔ - หน้าที่ ๕๘๘

อรรถกถาอัคคิสูตร

บทว่า อริยธมเม อโกวิเท ความว่า ชนเหล่าใด เว้นการทำไว้ในใจ ซึ่งการเรียนและการซักถาม ในธรรมทั้งหลาย มีขันธ์และอายตนะ เป็นต้น ทั่วทุกอย่าง เป็นผู้ชื่อว่าไม่ฉลาดในธรรม ชนเหล่านั้นถูกความงมงายครอบงำแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่า ชื่อว่า เป็นผู้งมงายโดยพิเศษ.



ความคิดเห็น 1    โดย อนุโมทนา  วันที่ 8 มิ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากอรรถกถาที่กล่าวมาได้อธิบายในเรื่องของไฟคือ โมหะ ย่อมเผาบุคคลผู้ไม่รู้ ไม่รู้ในอะไร ไม่รู้ในสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ (ขันธ์ อายตนะ) ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา หากไม่ศึกษาพระธรรม โดยการฟังหรือถามให้เข้าใจว่า อะไรคือธรรม ธรรมอยู่ในขณะไหน เป็นต้น ก็จะไม่เข้าใจความจริงของโลกว่ามีแต่ธรรม เมื่อไม่เข้าใจความจริง ย่อมเป็นผู้ไม่ฉลาดในธรรมที่มีในขณะนี้คือไม่รู้ว่าในขณะนี้เป็นธรรมนั่นเองย่อมหลงยึดถือสิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน ที่กำลังปรากฏว่าเป็นเรา เป็นสัตว์บุคคล ถูกอวิชชาความไม่รู้ ครอบงำ ครอบงำให้ไม่เห็นความจริง แม้สภาพธรรมกำลังปรากฏก็ไม่รู้ เหมือนจะเป็นผู้ฉลาดทางโลก แต่เป็นผู้งมงายอย่างแท้จริง ด้วยความไม่รู้ ด้วยความหลงและเพราะความไม่รู้ ความหลงนั่นเองย่อมทำให้ไม่พ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ ต้องเกิดอีกร่ำไป และประสบทุกข์ทั้งกายและใจอันเนื่องมาจากการเกิด โมหะจึงเป็นไฟที่เผาสัตว์ผู้ไม่รู้ตามความเป็นจริงในสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ให้ถูกเผาให้ประสบทุกข์อันเกิดจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 8 มิ.ย. 2551

กำลังเรียนอยู่จากเวปนี้ หลับบ้างตื่นบ้าง เป็นไปตามเหตุปัจจัย อนึ่งสำหรับผมนั้น ลำพังเพียงการเรียนและการซักถามในธรรมทั้งหลายที่อยู่ในตำรา คงช่วยไม่ได้มากนัก เห็นจะต้องเรียนจากของจริงที่ปรากฏอยู่ตามปกติด้วยอีกมาก

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย Pararawee  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย นิโรธะ  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

งมงาย นิยามว่าอย่างไร

งมคืออะไร หมายถึงอะไร แปลว่าอะไร ช่วยอนุเคราะห์ตอบด้วย

งายคืออะไร หมายถึงอะไร แปลว่าอะไร ได้แก่อะไร

งมงาย คืออะไร หมายถึงอะไร แปลว่าอะไร มีลักษณะอย่างไร

เหตุของ งมงาย คืออะไร ผลของ งมงาย คืออะไร และสภาวะงมงายเป็นอย่างไร

สาธุการทุกคำตอบครับ


ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

จากข้อความในอรรถกถาที่คุณ prakaimuk.k ได้ยกมานั้น ทำให้เห็นถึงโทษภัยของโมหะ (อวิชชา) ซึ่งเป็นความหลง ความไม่รู้ จึงเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีที่จะทำให้เป็นผู้ที่มีความมั่นคงในการศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพื่อที่จะได้ละคลายความหลง ความไม่รู้ไปตามลำดับ ขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏ ไม่มีขณะไหนเลย ไม่ใช่สภาพธรรม ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น คิดนึก ขณะกุศลจิตเกิด ขณะอกุศลจิตเกิด เป็นต้น

เป็นสภาพธรรมที่มีจริง สิ่งที่มีจริงทั้งหมดจึงควรที่จะศึกษา ครับ

ลักษณะของงมงาย นั้น เป็นลักษณะของความหลง ความไม่รู้ (ในอรรถกถาภาษาบาลี ท่านใช้คำว่า สมฺโมห แปลตามศัพท์ได้ว่า ความหลงพร้อม ซึ่งก็คือ ความหลงความไม่รู้นั่นเอง ครับ) ความหลง ความไม่รู้ เป็นกิเลสที่น่ากลัว เป็นไฟที่แผดเผารนจิตใจให้เร่าร้อน ทำให้ไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ หนทางที่จะละความหลง ความไม่รู้ได้ ก็ด้วยการอบรมเจริญปัญญา เท่านั้นครับ

..ขออนุโมทนาครับ..


ความคิดเห็น 6    โดย ตุลา  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ชีวิตที่มีความเห็นถูก จะคิดทำแต่สิ่งที่ดีงาม ไม่งมงาย

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ถ้าไม่ฟังธรรมะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงไว้ การบรรลุคุณธรรมขั้นต่างๆ ก็ไม่มีค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย orawan.c  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

ถ้าไม่ศึกษาพระสัทธรรมเพื่อให้มีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด ย่อมชื่อว่างมงายแน่นอน

และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 9 มิ.ย. 2551

หากสงสัยแล้วไม่ซักถาม ปล่อยให้ความเข้าใจผิด ความเห็นผิดงอกงามเรื่อยไป ย่อมครอบงำและทำให้เป็นผู้งมงาย ไม่งอกเงยในความเห็นถูกในความเข้าใจถูก

ขออนุโมทนาคุณ prakaimuk.k

และผู้ให้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมในทุกความคิดเห็นค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย เมตตา  วันที่ 10 มิ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย เจริญในธรรม  วันที่ 12 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนา

ความคิดเห็น 12    โดย เซจาน้อย  วันที่ 15 มิ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ