ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมไม่ได้สาธารณะกับทุกคน บุคคลผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมา ย่อมมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา และได้เข้าใจพระธรรมตามกำลังปัญญาของตนเอง ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัยเลย ในสมัยทีพระผู้มีพระภาคยังทรงพระชนม์อยู่ ผู้ที่มีอายุน้อยๆ เช่น ๕ ขวบ ๗ ขวบ ก็สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอรหันต์ได้ ที่สำคัญขึ้นอยู่กับปัญญาซึ่งเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นหลัก พระธรรมจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา อย่างแท้จริง สำหรับน้องกล้า "เด็กชาย ภูมิศิวัฒน์ ทิตตภักดี" เป็นเด็กที่สนใจธรรม (อ่านและเขียนหนังสือได้ และทราบมาว่าได้อ่านชาดก ได้อ่านพระสูตร ด้วย) มาศึกษาธรรมกับคุณแม่ ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ชอบจดธรรม ชอบถามธรรม (เป็นการส่วนตัว) มีบางประเด็นที่มีโอกาสได้พูดคุยสนทนากับน้องกล้า น้องกล้าพูดว่าชีวิตเต็มไปด้วยกองแห่งทุกข์ (เพราะพึ่งจะได้ฟังพระสูตร ที่เกี่ยวกับโลกตั้งอยู่แล้วในทุกข์ เมื่อวันเสาร์พอดี) พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี เป็นผู้ที่ละกองแห่งทุกข์ไปตามลำดับ จนถึงความเป็นพระอรหันต์ จึงจะเป็นผู้สิ้นทุกข์ทั้งปวงได้ (แล้วน้องกล้าก็ได้วาดรูปให้ดูว่านี้เป็นเส้นทางของพระอริยเจ้า) น้องกล้ายังได้พูดต่ออีกว่าพระอรหันต์ไม่มีทุกข์ใจ เพราะดับกิเลสหมด แต่ท่านยังมีทุกข์กาย อยู่นะ นอกจากนั้น น้องกล้า ยังพูดถึงภวังคจิต ด้วย ว่า ขณะที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่ได้รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ไม่คิดนึก เป็นต้น อารมณ์ของโลกนี้ไม่ปรากฏ ขณะนั้นเป็นภวังคจิต รวมถึงขณะที่นอนหลับสนิท โดยไม่ฝัน ด้วยนะ เพราะฝันไมใช่ภวังจิต ทำให้ผู้ร่วมฟัง (นอกรอบ) หลายท่านชื่นชมมาก และมีบางท่านบอกว่า แม้แต่ตัวเราเองยังไม่รู้ถึงขนาดนั้นเลย จึงแสดงให้เห็นถึงการสะสมมาของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริงหนทางของการเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังอีกยาวไกล การมีโอกาสได้สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปกติในชีวิตประจำวัน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เด็กชาย ภูมิศิวัฒน์ ทิตตภักดี (น้องกล้า)
แสดงให้เห็นว่าน้องกล้าต้องเป็นผู้ทีเคยสั่งสมบุญและปัญญามาแล้วในอดีต จึงได้มา
ในสถานที่ดีๆ ได้พบกับบัณฑิต ได้ฟังธรรมที่หาฟังได้ยาก ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
เด็กชาย ภูมิศิวัฒน์ ทิตตภักดี (น้องกล้า) เป็นเด็กน่ารักมาก ได้เห็นน้องกล้านั่งฟังพระธรรมอย่างตั้งใจ ยังคิดว่าเด็กคนนี้น่ารัก ไม่กวนคุณแม่ขณะฟังพระธรรมเลย
ได้แต่คิดในใจว่าน้องกล้าคงจะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่เพราะยังเด็กมาก แต่เมื่อได้ค่อยๆ สะสมการฟังพระธรรมตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นจะเป็นการสะสมอุปนิสัยในการฟังพระธรรม
แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนช่วงพัก ได้มีโอกาสเห็นน้องกล้าสนทนากับท่านผู้หนึ่งถึงเรื่องของ สวรรค์ ๖ ภูมิ น้องกล้าตอบอย่างชัดเจนว่าชั้นที่ติดกับมนุษย์คือ ชั้นจาตุมหาราชิกา
จึงได้ถามต่อว่าแล้วชั้นถัดไปละค่ะ น้องกล้าตอบว่า ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต น้องกล้า
ตอบอย่างมั่นใจมาก ไม่น่าเชื่อเลย หากไม่ได้ยินกับตัวเอง ทำให้ยิ่งเข้าใจเรื่องการสั่งสมการฟังพระธรรมของน้องกล้ามาตั้งแต่อดีตชาติ มาในภพชาตินี้แม้อายุยังน้อย
เมื่อได้ฟังพรธรรมก็มีความเข้าใจดี ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ครั้งแรกที่เห็นน้องกล้าก้มกราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ในวันมาฆบูชานั้น
ยังคิดว่า ช่างเป็นเด็กที่รู้ความจัง นึกอนุโมทนาทั้งคุณแม่และน้องกล้า
วันนี้ก็เห็นภาพนั้นอีก... รู้สึกประทับใจ
แต่ยังไม่เคยได้รับฟังเรื่องราวที่อ่านในวันนี้
อ่านแล้วก็ไม่สงสัยว่าทำไมน้องกล้าจึงฟังธรรมด้วยอาการที่ตั้งใจ
ไม่กวนคุณแม่หรือใครๆ เลย น่ารักมากๆ
การสะสมมาดี มากหรือน้อย ของแต่ละบุคคลนั้น
ประมาทด้วยวัยไม่ได้จริงๆ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและปัญญาที่น้องกล้าได้สะสมมาแล้ว
และที่กำลังสะสมต่อไปอีกนะคะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านด้วยค่ะ
น่ารักมาก..เป็นตัวของตัวเอง..พึ่งทราบว่าสนใจธรรมะ..มิน่า เวลาชวนคุยระหว่างฟังธรรมจึงถูกขว้างค้อน....บ่อยๆ ...ขอโทษคะขออนุโมทนาน้องกล้าและคุณแม่..คะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ...
ทำให้ระลึกถึงประโยคที่เคยฟังมาว่า " อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น "
" สิ่งสำคัญไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตา (เนื้อ) "
น้องกล้าสอนให้รู้ว่า ไม่ควรติดเพียงแค่เปลือกภายนอก
อุปมาเหมือน เรือสุพรรณหงส์ กับ เรือแจว มองภายนอกย่อมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
แต่เมื่อมองในแง่ประโยชน์แล้ว ก็คือ พาหนะอันเป็นประโยชน์ในการใช้ข้ามฝั่ง เสมอกัน
อนุโมทนาค่ะ
ตัวอย่างของการสะสมการฟังพระธรรมให้เข้าใจ
ไม่ไร้ค่า ไม่สูญเปล่า ไม่โมฆะ
เพราะย่อมเป็นอุปนิสสยปัจจัยให้ได้ฟังอีก โดยไม่จำกัดวัย
ขออนุโมทนาค่ะ
จึงไม่ควรล่วงขณะที่จะฟังพระธรรมให้เข้าใจบ่อยๆ เนืองๆ จริงๆ
ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องกล้าด้วยเช่นกัน และได้เห็นการสะสมเจริญปัญญาเห็นถึงความเข้าใจในพระธรรม ซึ่งหาได้ยากจริงๆ สำหรับเด็กในวัยเดียวกัน มีประโยคที่น้องกล้าพูดถึงเกี่ยวกับครอบครัวว่า "... มีก้อนทุกข์อยู่ 4 ก้อน คือ คุณพ่อและคุณแม่ ก้อนทุกข์ 2 ก้อน และมีน้องกล้าเป็นอีก 1 ก้อนทุกข์ รวมทั้งคุณยายอีก 1 ก้อนทุกข์ ..."ขออนุโมทนากับน้องกล้าและคุณแม่น้องกล้าด้วยค่ะ
สมาชิกเก่าค่ะแต่มีเหตุให้สมัครใหม่ครั้งที่สาม
มีหลานชาย (หลานย่า) ดูแล้วเท่ากับน้องกล้า แต่วิ่งเล่นทั้งวัน
เคยซื้อ C.D. การ์ตูนเรื่องพระพุทธเจ้าไปให้ดู ยังไม่ดูเลย
น้องกล้าจึงนับเป็นเด็กมหัศจรรย์จริงๆ
สาธุกับน้องกล้าและครอบครัวด้วยค่ะ
จากความคิดเห็นที่ 5 ขออนุโมทนากับน้องต้นกล้า ที่ได้กลับมาศึกษาพระธรรม สั่งสม
ความเห็นถูกอีกโอกาสหนึ่งนะครับ ขอชื่นชมและยินดีกับหนูมากๆ นะจ๊ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนากับน้องกล้าด้วย ที่สะสมมาดีจึงได้ฟังธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย บุคคลที่
สะสมมาย่อมมีเหตุปัจจัยให้ได้มาพบมาฟังธรรมตามกาล
เหมือนตอนที่ไปอินเดียได้ฟังพระภิกษุรูปหนึ่งท่านเล่าถึงเหตุใดท่านจึงมาบวช และ
ศึกษาพระธรรม ทั้งๆ ที่ท่านถูกพ่อแม่กีดกัน ขัดขวางมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ยอมให้อ่าน
หนังสือธรรมะ ไม่ยอมให้ไปวัด แต่ท่านก็พยายามทุกอย่างที่จะได้ทำในสิ่งที่ท่านต้อง
การ จนกระทั่งสมเด็จพระราชินีมีหนังสือแจ้งให้พ่อแม่ทราบว่าให้พาลูกไปบวช ท่านจึง
ได้บวชและคิดว่าจะบวชตลอดชีวิต ฟังท่านเล่าแล้วก็เป็นปิติกับท่านอย่างมากที่ได้
พระสงฆ์ดีๆ ที่จะเป็นเนื้อนาบุญ ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
ขออนุโมทนาด้วยคนครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ดิฉันเดินไปดู CD และ VCD ยังจุดที่วางจำหน่ายด้านหลัง เวลาประมาณ 12.30 น.เห็นน้องกล้าหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆ มาหลายก้อนวางบนโต๊ะและมีเด็กผู้ชายอีกคนยืนอยู่ใกล้ๆ จะขอเล่นก้อนหินนั้นด้วย ดิฉันได้ยินน้องกล้าบอกกับเพื่อนว่า " ฟังซิ..ฟัง" พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ลำโพง (ที่กำลังมีเสียงบรรยายจากท่านอาจารย์สุจินต์) ...สุดยอดอัจฉริยะจริงๆ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดียิ่งในกุศลของผู้สะสมมาดีเช่นน้องกล้าขอจงสะสมทรัพย์อันประเสริฐต่อไป