ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และคิดนึกไปในเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นบัญญัติ เป็นนิมิต อนุพยัญชนะ ขณะที่ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจถูกในสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริงซึ่งเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐาน นิมิต อนุพยัญชนะนั้นเป็นอโคจร แม้ขณะที่เมตตาเกิดซึ่งเป็นกุศลจิต มีสัตว์ บุคคลเป็นอารมณ์ อารมณ์นั้นก็ยังเป็นอโคจร เพราะไม่ทำให้เกิดความเข้าใจในสภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่เป็นเหตุให้บรรลุอริยสัจจธรรมได้
ขออนุโมทนาค่ะ
บัญญัติอารมณ์เป็นอโคจรของการอบรมเจริญสติปัฏฐาน แต่ตัวจริงของสภาพนามธรรม ที่กำลังรู้บัญญัตินั้นไม่เป็นอโคจร เพราะเป็นปรมัตถอารมณ์ ...
ขออนุโมทนาพี่เมตตาครับ
อีกอย่างหนึ่งว่า เหมือนอย่างว่า ท่านสมณพราหมณ์บางพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ไม่ขวนขวาย ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศลเห็นปานนี้ คือการฟ้อน การขัน การประโคม ฯลฯ กองทัพภิกษุเป็นผู้เว้นขาดจากการขวนขวายดูการเล่น อันเป็นข้าศึกแก่กุศลเห็นปานนี้ แม้เช่นนี้ก็เรียกว่าโคจร
แม้สติปัฏฐาน ๔ ก็ชื่อว่าโคจร
เชิญคลิกอ่าน ...
โคจรเป็นไฉน
ที่ว่าเป็นโคจร ต้องเป็นขณะที่จิตมีสภาพธรรมเป็นอารมณ์เท่านั้นหรือว่าแค่จิตเป็นกุศล (เป็นบัญญัติอารมณ์) คะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
นิมิต อนุพยัญชนะ นั้นเป็นอโคจร ...
ลึกซึ้งมาก ขออนุโมทนาค่ะ
นิมิต อนุพยัญชนะ นั้นเป็นอโคจร ...
ลึกซึ้งมาก ขออนุโมทนาค่ะ
นิมิต อนุพยัญชนะ นั้นเป็นอโคจร เป็นประโยคที่ท่านอาจารย์บรรยายวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ ทีแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอดี ท่านอ. อรรณพได้กราบเรียนถามท่าน อาจารย์ และได้อธิบายเพิ่มเติมให้ได้เข้าใจ จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ ลึกซึ้งมากจริงๆ ค่ะ ...
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กระทู้นี้ไพเราะจริง กระทู้นี้งดงามจริงหนอ กระทู้นี้มีนัยสำคัญหนอ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ