[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 304
ลักษณะของยมกปาฏิหาริย์
"ญาณในยมกปาฏิหาริย์ของพระตถาคตเป็นไฉน ในญาณนี้พระตถาคตทรงทำยมกปาฏิหาริย์ ไม่ทั่วไปด้วยพวกสาวก ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระกายเบื้องบน สายน้ำไหลออกแต่พระกายเบื้องล่าง ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระกายเบื้องล่าง สายน้ำไหลออกแต่พระกายเบื้องบน ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระกายเบื้องหน้า สายน้ำไหลออกแต่พระกายเบื้องหลัง; ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระกายเบื้องหลัง สายน้ำไหลออกแต่พระกายเบื้องหน้า ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระเนตรเบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่พระเนตรเบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระเนตรเบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่พระเนตรเบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่ช่องพระกรรณเบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่ช่องพระกรรณเบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่ช่องพระกรรณเบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่ช่องพระกรรณเบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่ช่องพระนาสิกเบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่ช่องพระนาสิกเบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่ช่องพระนาสิกเบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่ช่องพระนาสิกเบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่จะงอยพระอังสาเบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่จะงอยพระอังสาเบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่จะงอยพระอังสาเบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่จะงอยพระอังสาเบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระหัตถ์เบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่พระหัตถ์เบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระหัตถ์เบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่พระหัตถ์เบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระปรัศว์เบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่พระปรัศว์เบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระปรัศว์เบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่พระปรัศว์เบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระบาทเบื้องขวา สายน้ำไหลออกแต่พระบาทเบื้องซ้าย ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระบาทเบื้องซ้าย สายน้ำไหลออกแต่พระบาทเบื้องขวา ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระองคุลี สายน้ำไหลออกแต่ช่องพระองคุลี ท่อไฟพลุ่งออกแต่ช่องพระองคุลี สายน้ำไหลออกจากพระองคุลี ท่อไฟพลุ่งออกแค่ขุมพระโลมาขุมหนึ่งๆ สายน้ำไหลออกแต่พระโลมาเส้นหนึ่งๆ ท่อไฟพลุ่งออกแต่พระโลมาเส้นหนึ่งๆ สายน้ำไหลออกแต่ขุมพระโลมาขุมหนึ่งๆ รัศมีทั้งหลาย ย่อมเป็นไปด้วยสามารถแห่งสี ๖ อย่าง คือ เขียว เหลือง แดง ขาว หงสบาท ปภัสสร
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจงกรม พระพุทธนิรมิตย่อมยืนหรือนั่งหรือสำเร็จการนอน (พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืน พระพุทธนิรมิตย่อมจงกรม นั่งหรือสำเร็จการนอน พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่ง พระพุทธนิรมิตย่อมจงกรม ยืนหรือสำเร็จการนอน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสำเร็จสีหไสยาพระพุทธนิรมิตย่อมจงกรม ยืนหรือนั่ง พระพุทธนิรนิตจงกรม พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงยืน ประทับนั่ง หรือสำเร็จสีหไสยา พระพุทธนิรมิตทรงยืน พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงจงกรม ประทับนั่งหรือทรงสำเร็จสีหไสยา พระพุทธนิรมิตประทับนั่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมทรงจงกรม ประทับยืน หรือสำเร็จสีหไสยา พระพุทธนิรมิตสำเร็จสีหไสยา พระผู้มีพระภาคย่อมทรงจงกรม ประทับยืน หรือประทับนั่ง นี้เป็นญาณในยมกปาฏิหาริย์ของพระตถาคต"
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น