* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม ด้วยโวหารเทศนา อุปมาประการต่างๆ เพื่อให้ผู้ฟังได้เข้าใจในความเป็นธรรม ละความยึดถือว่าเป็นเรา
* อายตนะ คือ สภาพธรรมที่กำลังประชุมกัน ในขณะที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ (สิ่งที่จิตรู้) แต่ละขณะ
* อายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งเป็นแหล่งที่อาศัยให้เกิดการรู้อารมณ์ในแต่ละทาง
* อายตนะภายนอก คือ สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สภาพที่กระทบกาย คือ เย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง ตึง-ไหว) และอารมณ์ทางใจ ซึ่งปรากฏให้จิตรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามลำดับ
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุปมาอายตนะภายใน 6 ว่าเหมือนเรือนร้าง 6 หลัง และ อายตนะภายนอก 6 ว่าเหมือนโจร 6 คน
* อุปมาเหมือน เมื่อโจรทั้ง 6 นั้น เข้าไปสู่หมู่บ้านร้างอันมีเรือนร้าง 6 หลัง เที่ยวไปมาอยู่ ไม่ได้อะไรๆ ก็ไม่ต้องการเรือนร้างเหล่านั้น ฉันใด ผู้อบรมเจริญปัญญา ก็ฉันนั้น เมื่อพิจารณาสภาพธรรมทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็เห็นแจ้งตามความเป็นจริงว่าตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นของว่างเปล่า สูญ จากความเป็นตัวตน เพราะเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับไป
* ชีวิตแต่ละวันที่ตื่นขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กายใจ ก็เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับไป ไม่มีความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อยังไม่ประจักษ์แจ้งความจริงเช่นนั้น ก็ต้องฟังพระธรรม อบรมปัญญาต่อไป
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ