การสนทนาธรรม หรือ ตอบปัญหาของทางมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ยึดพระไตรปิฎกเป็นหลักเสมอมา อยากให้ท่านวิทยากรชี้ให้เห็นความสำคัญ และที่มาของพระไตรปิฎก
อันที่จริงเรื่องนี้ก็สามารถค้นคว้าได้จากในเว็บไซต์นี้ แต่ขอรบกวนท่านวิทยากรช่วยเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะบางท่านอาจเพิ่งเข้ามาศึกษาและไม่ทราบจะเข้าไปดูข้อมูลในส่วนไหนของเว็บไซต์ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ บุคคลผู้เลิศสูงสุด ที่ทรงตรัสรู้ความจริงของสภาพธรรมและทุกอย่างตามความเป็นจริง ทรงรู้ตามความเป็นจริงที่เป็นสัจจะทั้งหมด และก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงดับขันธปรินิพพาน ได้ตรัสกับท่านพระอานนท์ว่า "อานนท์เธออย่าคิดว่าศาสดาล่วงไปแล้ว จะไม่มีศาสดา แต่ธรรมที่เราตรัสไว้ดีแล้ว จะเป็นศาสดาแทนเรา" นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เป็นดั่งเช่นได้ตรัสมาจากพระโอษฐ์อีกครั้ง ทุกครั้งที่ได้อ่าน ได้ฟัง พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งก็มาจากการรวบรวม สังคายนาจากพระเถระผู้ทรงคุณทั้งหลาย รวบรวมเป็นหมวดหมู่ คือ พระไตรปิฎกนั่นเอง เพราะฉะนั้น พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่เป็นพระไตรปิฎกก็เหมือนพระปัญญาตรัสรู้ ที่สามารถตอบคำถาม ตามความเป็นจริงที่เป็นสัจจะ ได้ถูกต้อง เป็นหนึ่งไม่เปลี่ยนแปลง สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระจุนทะที่ว่า "จุนทะ คำใดที่เราตรัส ตั้งแต่เมื่อเราตรัสรู้ จนถึงปรินิพพาน คำนั้นย่อมเป็นจริง เป็นหนึ่ง ไม่เป็นสอง ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงได้." เพราะฉะนั้น การตอบคำถามสนทนาธรรม ทั้งที่มูลนิธิฯ ในเวปไซต์ และที่ใดก็ตาม ก็ควรเป็นการแสดงสัจจะ ประกาศความจริง ที่ไม่เลื่อนลอย ตามความคิดเองของปุถุชนที่มากไปด้วยความไม่รู้ ย่อมคิดผิด แต่เมื่อแสดงตามสัจจะ มีหลักฐานข้ออ้าง ที่ไม่ใช่คิดเอง แต่เป็นพระดำรัสของพระพุทธเจ้า ย่อมเป็นการตอบคำถาม สนทนาธรรมที่ถูกต้อง อันจะนำมาซึ่งการละกิเลสและเจริญขึ้นของปัญญาอย่างแท้จริง เพราะเป็นการดำเนินทางที่ถูก และการสนทนาธรรม ที่กล่าวตามพระพุทธพจน์ ตามพระไตรปิฎก ย่อมเป็นสัจจะความจริงเสมอ ไม่ว่ากาลไหน สมัยใด อันสมควรที่จะสนทนาตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง อันนำมาซึ่งประโยชน์ คือ ละ อวิชชา และ เจริญขึ้นของปัญญา ครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ก็ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ทรงพร่ำสอนอยู่ บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง
ทุกคำในพระไตรปิฎก ก็คือ กล่าวถึงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงแก่สัตว์โลกนั้น เป็นจริงทั้งหมด ไม่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ควรอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาจะได้ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความจริง ความเข้าใจถูกจะเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตกไปในฝ่ายผิด ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญาด้วยตนเอง เห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
พระไตรปิฎกเป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้า เวลาตอบจึงต้องมีหลักฐาน อ้างอิงตามพระพุทธเจ้าทรงแสดง ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณ
ขออนุโมทนากุศลธรรมทุกท่านครับ
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...
พระไตรปิฎก ๙๑ เล่ม
การค้นหาข้อมูลจากพระไตรปิฎก