ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประมวลสาระสำคัญ
จากการสนทนาธรรม
ที่บ้านคุณปวีร์ คชภักดี (โอ ปวีร์) จ.พัทลุง
วันอังคารที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
~ ทุกคนจะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวนี้เป็นธรรม เป็นธรรมดาที่จะต้องเป็นอย่างนี้ ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาได้เลยทั้งสิ้น
~ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่ บุคคลที่สะสมมาที่จะได้ฟังคำของพระองค์ ก็ย่อมจะได้ฟัง
~ การที่จะมีโอกาสได้ยินได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีคำว่าบังเอิญ แต่ต้องเป็นอย่างนี้ ต้องเป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าใจธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเพิ่มขึ้น
~ พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากมายมหาศาล แต่ถ้าไม่ได้ฟังสักคำของพระองค์ ไม่มีทางที่จะรู้คุณของพระองค์ได้เลย
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำแพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) นานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ เพื่อเราจะได้ฟังคำที่เราสามารถจะเข้าใจความจริง ซึ่งคนทั้งโลกไม่มีทางที่จะทำให้เราเข้าใจได้ นอกจากคำของพระองค์ซึ่งดำรงสืบต่อมา แล้วเราก็ไม่ประมาทเลย ต้องเข้าใจจริงๆ ในแต่ละคำ
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะได้ยินได้ฟัง เหมือนคำที่จะเปิดเผยสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งๆ ที่มีในขณะนี้ ให้รู้ว่าพระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
~ มั่นคงในคำว่าธรรมหรือยัง? สิ่งที่มีจริงทั้งหมดเป็นธรรม
~ มีปัจจัยที่จะทำให้ได้ฟังพระธรรม ก็ได้ฟัง คนที่รู้คุณค่าก็จะรู้ว่านี่คือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และควรที่จะมีความเข้าใจยิ่งขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
~ บูชาพระรัตนตรัยสูงสุด คือ เข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ถ้าสะสมความเข้าใจธรรม ก็จะแสวงหาที่จะฟังธรรม เพื่อความเข้าใจได้
~ สิ่งที่มีจริงทั้งหมด เป็นธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม ไม่มีอะไรที่พระองค์ไม่ทรงตรัสรู้
~ เงินทองซื้อความเข้าใจถูกเห็นถูกไม่ได้ ต้องเป็นการสะสมมาที่จะเห็นประโยชน์เท่านั้น ที่คิดว่ายิ่งฟังพระธรรม ก็สามารถที่จะรู้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด
~ เราจะไม่ประมาทเลย โดยการที่ว่าเริ่มต้นก็รู้ว่าพระธรรมเป็นสิ่งที่มีค่า แล้วจะทิ้งสิ่งที่มีค่าไปหรือ หรือว่าเรามีโอกาสจะมากน้อยอย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่า ชาตินี้ทั้งชาติถ้าเราไม่ได้ฟังไม่ได้เข้าใจ คิดหรือว่าชาติหน้าจะได้มีโอกาส
~ ถ้ามีความเข้าใจเกิดขึ้น ก็เพราะแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ฟัง ลองขาดคำหนึ่ง จะเข้าใจไหม? ก็ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น แต่ละหนึ่งขณะมีประโยชน์มาก
~ ธรรมคือสิ่งที่มีจริง, สิ่งที่มีจริง ใครไปทำให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะเกิดตามเหตุตามปัจจัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคลตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น) แค่ประโยคนี้ ถ้าเราไม่ทิ้ง ก็จะคุ้มครองเราไม่ให้ตกไปในทางที่ผิด
~ การที่มีโอกาสได้ฟังได้เข้าใจธรรมจนเป็นความเข้าใจของเราเองที่ถูกต้อง จะทำให้เราพ้นจากความเห็นผิด แล้วรู้ว่า ใครพูดผิด ใครพูดถูก
~ ความเป็นคนตรง ก็จะสามารถช่วยตนเองและคนอื่นด้วย และช่วยดำรงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คนอื่นได้มีโอกาสได้ฟังด้วย
~ เห็นเป็นเห็น เห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เห็นต้องเป็นเห็น เห็นเป็นคิดไม่ได้ เห็นเป็นคนไม่ได้ เห็นเป็นนกไม่ได้ ถ้าเอารูปนกออก เอารูปปลาออก เอารูปคนออก เห็นก็ต้องเป็นเห็น อย่างไรก็ต้องเป็นเห็น เป็นอื่นไม่ได้ นี่คือความเข้าใจมั่นคงขึ้นว่าธรรมเป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ไม่ใช่ของใครเลย เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
~ สิ่งใดที่ถูก เราก็ทำ จะกลัวอะไร
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ