พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๘๘ บทว่า วิหรติ ความว่า เปลี่ยนอิริยาบถ คือ ยังอัตภาพให้เป็นไป ได้แก่รักษาตัวอยู่.
อนุปัสสี วิหารติ เป็นผู้เห็นตามความเป็นจริงเป็นเครื่องอยู่ คือเป็นผู้มีปกติเจริญสติ กว่าจะเป็นผู้มีปกติเจริญสติได้ ต้องฟังธรรมด้ายดีมานานมาก เพื่อให้เกิดความเข้าใจขั้นการฟ้ง ในเรื่องราวของสภาพธรรมเป็นอย่างดี ฟังเนืองๆ บ่อยๆ นานมากๆ จนเข้าใจ เกิดสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สัญญาอันมั่นคงเกิดขึ้นสัญญาอันมั่นคงนี้เป็นเหตุไกล้ให้สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เช่นระลึกลักษณะของสี่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลี้น ทางกาย และระลึกลักษณะของสภาพรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เช่นขณะนี้ เห็นมีไหม แข็งมีไหม ได้ยินมีไหม คิดนึกมีไหม ดีใจเสียใจมีไหมเห็นแล้วรู้ว่าเป็นอะไรมีไหม ได้ยินแล้วรู้ว่าเรื่องอะไรมีไหมสติระลึกนามใดนามหนึ่ง รูปใดรูปหนึ่ง ไปเรื่อยๆ ตามปกติตามธรรมดาโดยไม่จดจ้องต้องการ ไม่มีเรา ไม่มีตัวตนที่ระลึก ที่รู้ มีแต่สภาพรู้ที่เป็นนามธรรมที่ระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏ อบรมเจริญสติ สัมปชัญญะ ไปเรื่อยๆ วันหนึ่งก็จะเป็น อนุปัสสี วิหารติ ได้ครับ
....จนกว่าจะถึงวันนั้นค่ะ
สาธุ
ผู้ที่มีชีวิตอยู่ ๑ วัน อบรมสติปัฏฐาน ประเสริฐกว่าผู้มีชีวิตอยู่ร้อยปี แต่ไม่ได้เจริญสติปัฏฐานค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
และขออนุโมทนาครับ