ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้า 215
นครํ ยถา ปจฺจนตํ คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ เอวํ โคเปถ อตฺตานํ ขโณ โว มา อุปจฺจคา ขณาตีตา หิ โสจนฺติ นิรยมฺหิ สมปฺปิตา ...
"ท่านทั้งหลายควรรักษาตน เหมือนกับพวกมนุษย์ป้องกันปัจจันตนคร ทั้งภายในและภายนอก ฉะนั้น, ขณะอย่าเข้าไปล่วงท่านทั้งหลายเสีย เพราะว่าชนทั้งหลายผู้ล่วงเสียซึ่งขณะ เป็นผู้เบียดเสียดกันในนรก เศร้าโศกอยู่" ...
แก้อรรถ
... พวกท่านจงเข้าไปตั้งสติไว้ จงปิดทวารทั้ง ๖ อันเป็นภายใน ไม่ปล่อยสติซึ่งรักษาทวาร ทำอายตนะภายใน ๖ เหล่านั้นให้มั่น ด้วยการไม่ถือเอาโดยประการที่อายตนะภายนอก ๖ ซึ่งยึดถืออยู่ จะเป็นไปเพื่อขจัดอายตนะภายในเสีย ไม่ละสติที่รักษาทวาร เพื่อไม่ให้อายตนะภายนอกเหล่านั้นเข้าไปประพฤติอยู่ ชื่อว่า รักษาตนไว้ฉันนั้น ...
ขณะนี้แม้ทั้งสิ้น คือ
"ขณะเป็นที่บังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้านี้
ขณะบังเกิดในมัชฌิมประเทศ
ขณะอันได้สัมมาทิฏฐิ
ขณะไม่ขาดแคลนแห่งอายตนะทั้ง ๖ ประการ ...
ขณาตีตา ... ความว่า ... บุคคลเหล่าใดล่วงเสียซึ่งขณะนั้น, และขณะนั้นล่วงเสียซึ่งบุคคลเหล่านั้น ชนเหล่านั้นเป็นผู้เบียดเสียดกันในนรก คือบังเกิดในนรกนั้นแล้ว เศร้าโศกอยู่.
[สรุปความ]
รักษาตน หมายถึง รักษาทวาร ๖ อายตนะภายใน ๖ มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นต้น โดยความเป็นผู้มีสติเกิดขึ้นระลึกสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรม ไม่ถือสิ่งที่ปรากฏโดยความเป็นเรา สัตว์ บุคคล ตัวตน
ผู้ที่ไม่ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ไตร่ตรองความจริง ขาดสติ ขาดปัญญาที่รู้ความจริงที่มีในขณะนี้ เป็นผู้ไม่รักษาตน เป็นผู้ล่วงเลยขณะทั้ง ๔ ข้างต้น และ ขณะทั้ง ๔ ก็ล่วงเลยผู้นั้นไป
ขอกราบอนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตครับ