วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 157
[การสอนตนเมื่อเกิดปฏิฆะ]
[นัยที่ ๑-ระลึกถึงโทษของความโกรธ]
แต่ถ้าเมื่อเธอนำจิตเข้าไปในคนเป็นศัตรูกัน ปฏิฆะเกิดขึ้น เพราะระลึกถึงความผิดที่เขาทำให้ไซร้ เมื่อเช่นนั้น เธอพึงเข้าเมตตา (ฌาน) ในบุคคลลำดับหน้าๆ (มีคนที่รัก เป็นต้น) ในบุคคลไรๆ ก็ได้บ่อยๆ ออกแล้วทำเมตตาถึงบุคคลนั้นร่ำไป บรรเทาปฏิฆะให้ได้
ถ้าแม้เมื่อเธอพยายามไปอย่างนั้น มันก็ไม่ดับไซร้ ทีนี้ เธอพึงพยายามเพื่อละปฏิฆะ โดยระลึกถึงพระพุทธโอวาททั้งหลาย มีกกจูปมโอวาท (พระโอวาทที่มีความอุปมาด้วยเลื่อย) เป็นต้น บ่อยๆ เถิด
ก็แลโยคาวจรภิกษุนั้นเมื่อจะสอนตน พึงสอนด้วยอาการ (ต่อไป) นี้แลว่า๒ "อะไรนี่เจ้าบุรุษขี้โกรธ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้มิใช่หรือว่า
(๑) "ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้หากพวกโจรป่า ๓ จะพึง (จับตัว) ตัดองค์อวัยวะด้วยเลื่อยที่มีด้าม ๒ ข้าง แม้นผู้ใดยังใจให้คิดร้ายในพวกโจรนั้น เพราะเหตุที่ใจร้ายนั้น ผู้นั้นหาได้ชื่อว่าสาสนกร (ผู้ทำตามคำสอน) ของเราไม่ ๑" และว่า
(๒) ผู้ใด โกรธตอบ ผู้ที่โกรธเอา (ก่อน) เพราะเหตุที่โกรธตอบนั้น ผู้นั้นกลับเลวกว่าผู้ที่โกรธ (ก่อน) นั้นเสียอีก ผู้ไม่โกรธตอบ ผู้โกรธเอา ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นขุ่นเคืองขึ้นมาแล้วมีสติระงับใจเสียได้ (ไม่เคืองตอบ) ผู้นั้นชื่อว่า ประพฤติเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายตน และฝ่ายท่าน"๒ และว่า
๓) "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ศัตรูปรารถนา (ให้มีแก่ผู้เป็นศัตรูกัน) ที่ศัตรูพึงทำ (ให้แก่ผู้เป็นศัตรูกัน) ๗ ประการนี้ย่อมมาถึงคนมักโกรธ จะเป็นสตรีหรือบุรุษก็ตาม ธรรม ๗ ประการคืออะไรบ้าง ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศัตรูในโลกนี้ ย่อมปรารถนาอย่างนี้ต่อผู้เป็นศัตรูกันว่า เออน่ะ ขอ (ให้) มันเป็นคนมีผิวพรรณทรามเถิด" ดังนี้ ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไร ภิกษุทั้งหลาย (เพราะ) ศัตรูย่อมไม่ยินดี ด้วยความมีผิวพรรณ (งาม) แห่งผู้เป็นศัตรูกันภิกษุทั้งหลาย บุรุษบุคคลผู้มักโกรธนี้ ถูกความโกรธครอบงำแล้วโกรธเต็มประดาแล้ว ถึงเขาจะเป็นผู้อาบน้ำแล้วอย่างดี ลูบไล้กายอย่างดี ตัดแต่งผมและหนวด นุ่งห่มผ้าขาวสะอาด ก็ตามเถิด ถึงกระนั้น เขาผู้ถูกความโกรธครอบงำ ก็เป็นคนมีผิวพรรณทรามอยู่นั่นเอง นี้ ภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ศัตรูปรารถนา (ให้มีแก่ผู้เป็นศัตรูกัน) ที่ศัตรูพึงทำ (ให้แก่ ผู้เป็นศัตรูกัน) ประการต้น ย่อมมาถึงคนมักโกรธ จะเป็นสตรีหรือบุรุษก็ตาม
อีกข้อหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย ศัตรูย่อมปรารถนานี้ต่อผู้เป็นศัตรูกันว่า "เออน่ะ ขอ (ให้) มันนอนเป็นทุกข์เถิด" ฯลฯ "ขอ (ให้) มันเป็นคนอัตคัดเถิด * ฯลฯ "ขอ (ให้) มันเป็นคนไม่มีโภคะเถิด" ฯลฯ" ขอ (ให้) มันเป็นคนไม่มี (เกียรติ) ยศเถิด" ฯลฯ "ขอ (ให้) มันเป็นคนไม่มีมิตรเถิด" ฯลฯ เพราะกายแตกตายไป ขอ (ให้) มันอย่าได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เลย" ดังนี้ ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไรภิกษุทั้งหลาย (เพราะ) ศัตรูย่อมไม่ยินดีด้วยความไปสุคติแห่งผู้เป็นศัตรูกัน ภิกษุทั้งหลาย บุรุษบุคคลผู้มักโกรธนี้ ถูกความโกรธครอบงำแล้ว โกรธเต็มประดาแล้ว ย่อมประพฤติชั่วด้วยกาย ประพฤติชั่วด้วยวาจา ประพฤติชั่วด้วยใจ เขาผู้ถูกความโกรธครอบงำ ครั้นประพฤติชั่วด้วยกายวาจาใจแล้ว เพราะกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรก"๑ และว่า
(๔) "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดุ้นฟืนเผาศพ ไฟไหม้ทั้ง ๒ ข้าง ตรงกลางก็เปื้อนคูถ ใช้ประโยชน์เป็นเครื่องไม้ในบ้านก็ไม่ได้เป็นฟืนในป่าก็ไม่ได้ ฉันใดก็ดี เรากล่าวบุรุษบุคคลผู้นี้ว่า มีอุปมา ฉันนั้น"๒ ดังนี้
บัดนี้ ตัวเจ้านั้นมัวโกรธอยู่อย่างนี้ ก็จะไม่ชื่อว่าเป็นสาสนกร (ผู้ทำตามคำสอน) ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย มัวโกรธตอบ (เขา) กลับเป็นคนเลวกว่าคนที่โกรธ (ก่อน) แล้วก็จักไม่ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะยากด้วย จักได้ชื่อว่าทำสปัตตกรณธรรม (สิ่งที่ศัตรูทำให้แก่ผู้ที่เป็นศัตรูกัน) แก่ตนด้วยตนเองด้วย จักเป็นคนเหมือนดุ้นฟืนเผาศพด้วยละซิ"
การฟังพระธรรมจะทำให้ค่อยๆ มีเมตตามากขึ้นนะ ขออนุโมทนาค่ะ
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ..
การอบรมเจริญเมตตา 001
การอบรมเจริญเมตตา 002
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
สาธุ
อนุโมทนาขอบคุณมากค่ะคุณเมตตา