ท่านที่ไม่เจริญสติปัฏฐาน ไม่ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม จะแสดงวิธีกำจัดราคะ โทสะ โมหะได้อย่างไรให้เป็นสมุจเฉท กำจัดให้ขาดสูญเป็นสมุจเฉททีเดียว ไม่มีหนทางอื่นเลย นอกจากเจริญสติระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง คิดวิธีอื่นที่กำจัดราคะ โทสะ โมหะ โดยไม่ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม ลองดูว่าจะสำเร็จได้ไหม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้
ข้อความบางตอนจาก
พระวินัยปิฎก มหาวรรค เรื่อง สีหเสนาบดี
มีข้อความว่า
เหตุที่เขากล่าวหาเราว่า พระสมณโคดมช่างรังเกียจ แสดงธรรมเพื่อความรังเกียจ และแนะนำสาวกตามแนวนั้น ดังนี้ ชื่อว่ากล่าวถูก
(พระผู้มีพระภาคทรงรังเกียจอกุศลทุกประเภท ทั้งโลภะ โทสะ โมหะ ท่านผู้ฟังรังเกียจโลภะบ้างไหม สภาพที่เพลิดเพลินยินดีในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ในธัมมารมณ์ ซึ่งเป็นเหตุ เป็นสมุทัยที่จะให้มีการเกิดอีก เห็นอีก ได้ยินดีอีก ได้กลิ่นอีก รู้รสอีก รู้เย็น ร้อน อ่อน แข็ง โผฏฐัพพะอีก ไม่เบื่อ เมื่อวานนี้ก็เห็น ก็ยังอยากจะเห็นอย่างนั้นอย่างนี้อีก เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้ก็จะเห็นต่อไปอีก ภพชาติต่อๆ ไปก็ไม่พ้นจากการที่มีความติดข้อง ยินดี พอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ)
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกร สีหะ อนึ่งเหตุที่เขากล่าวหาเราว่า พระสมณโคดมช่างกำจัด แสดงธรรมเพื่อความกำจัด และแนะนำสาวกตามแนวนั้น ดังนี้ ชื่อว่ากล่าวถูกนั้นเป็นอย่างไร
ดูกร สีหะ เพราะเราแสดงธรรมเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ แสดงธรรมเพื่อกำจัดสถานะที่เป็นอกุศลหลายอย่างนี้แล
เหตุที่เขากล่าวหาเราว่า พระสมณโคดมช่างกำจัด แสดงธรรมเพื่อความกำจัด และแนะนำสาวกตามแนวนั้น ดังนี้ ชื่อว่ากล่าวถูก
ขอเชิญรับฟัง
รื่อง สีหเสนาบดี*
หมายเหตุ ข้อความสีน้ำเงิน ในวงเล็บ เป็นคำกล่าว ของ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์