ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การศึกษาเรื่องของสภาพธรรมโดยละเอียดยิ่งขึ้นเท่าที่จะสามารถเข้าใจได้ในตอนต้นเป็นปัจจัยให้เห็น "ความเป็นอนัตตา" ยิ่งขึ้น เพราะเหตุว่า ถ้าได้ทราบเรื่องของปัจจัยแล้ว จะทำให้เห็น "ความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมทั้งหลาย" ว่า สภาพธรรมแต่ละประเภท "เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย"ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ลอยๆ และ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วนั้น เป็นปัจจัยที่จะทำให้สภาพธรรมอื่นเกิดขึ้นพร้อมกันหรือว่า เป็นปัจจัยที่จะให้สภาพธรรมอื่นเกิดขึ้นข้างหน้าในอนาคตแม้ในอีกแสนโกฏิกัปป์
สภาพธรรมที่เป็นสังขารธรรม ต้องอาศัยปัจจัยจึงเกิดขึ้นถ้าไม่มี "ปัจจัย" สังขารธรรม ก็ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ สังขารธรรม ต้องเป็นไป ตามเหตุ ตามปัจจัย เพราะฉะนั้น ก็ได้ยินคำว่า "ปัจจัย" นับตั้งแต่ รู้ลักษณะของสังขารธรรม.
ปรมัตถธรรมมี ๔ คือ จิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ นิพพานปรมัตถ์ เพราะฉะนั้น สภาพธรรมที่เป็น "ปรมัตถธรรม" นั้นเองเป็น "ปัจจัย" ที่ทำให้สภาพปรมัตถธรรมอื่น เกิดขึ้นพร้อมกันกับตนหรือว่า เกิดขึ้น ภายหลังที่สภาพธรรมที่เป็นปัจจัยนั้น ดับไปแล้ว.
ข้อความบางตอนจากเทปชุด ปัฏฐาน (ปัจจัย ๒๔) ตอนที่ ๑
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ