* พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่มีเหตุผลตรงตามความเป็นจริงอย่างชัดเจนจนถึงที่สุด ดังนั้นการจะเข้าใจพระพุทธศาสนา และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง จึงต้องเป็นผู้ตรงในเหตุในผลจริงๆ ว่า ไม่รู้อะไร และจะรู้อะไร
* ถ้ายังไม่รู้ว่าไม่เข้าใจอะไร แล้วจะเข้าใจสิ่งนั้นได้อย่างไร ก็คงยังไม่เข้าใจ และถ้ายิ่งหลงผิดคิดว่าเข้าใจ โดยไม่ได้เข้าใจ ก็จะไม่มีโอกาสที่จะเข้าใจได้เลย
* การที่รู้ว่าไม่เข้าใจอะไร ก็ต้องเป็นปัญญาตั้งแต่เริ่มต้นที่รู้ว่ายังไม่เข้าใจอะไร จึงจะมีโอกาสเข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เพราะมีความไม่รู้ (อวิชชา) จึงทำให้เราทั้งหลายต้องอยู่ในสังสารวัฏฏ์มาแสนนาน และความไม่รู้ก็คือไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ เดี๋ยวนี้เอง
จึงเป็นพระมหากรุณาคุณที่ทรงเกื้อกูลให้เรารู้ว่าไม่รู้อะไร เพราะอะไร
* และทรงแสดงว่าสิ่งที่ควรรู้อย่างยิ่ง ก็คือสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้เอง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละหนึ่งที่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเกิดปรากฏตามเหตุปัจจัย และก็ดับไปอย่างรวดเร็วที่สุด ในแต่ละขณะเดี๋ยวนี้เอง เช่น เห็น มีจริงๆ เกิดแล้วดับตามเหตุปัจจัย และการที่จะรู้ตามความเป็นจริงอย่างนี้ได้ ก็ต้องเป็นปัญญาที่เริ่มต้นจากการฟังพระธรรม จนมีความเข้าใจมั่นคงว่าเป็นธรรม ที่ไม่ใช่เรา
จึงเป็นพระมหากรุณาคุณที่ทรงเกื้อกูลให้เรารู้ว่า สิ่งที่ควรรู้คืออะไร และรู้ได้ด้วยอะไร
* ดังนั้น จึงต้องฟังพระธรรม เพื่อรู้ว่า ไม่เข้าใจอะไร แล้วจะเข้าใจอะไร
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ชออนุโมทนาค่ะ