* เพราะมีสภาพธรรมที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่งเกิดแล้วดับ การเกิดดับสืบต่อของสภาพธรรม จึงเป็นนิมิต (เครื่องหมาย) ให้รู้ได้
* สภาพธรรมที่มีนิมิต คือจิต เจตสิก และรูป เพราะอาศัยปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดดับสืบต่อ
* สภาพธรรมที่ไม่มีนิมิต คือพระนิพพาน เพราะไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงไม่เกิดไม่ดับ
* ขณะนี้ มีสภาพธรรมเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็วสุดประมาณ จึงมีนิมิตของสภาพธรรมแต่ละอย่าง และมีบัญญัติต่างๆ มากมาย ทั้งที่เป็นรูปร่าง รูปทรง สิ่งต่างๆ คำพูด และความหมายที่สื่อสารให้รู้กันได้
* ดังนั้น ทุกคนจึงอยู่ในโลกของนิมิต และบัญญัติ (ซึ่งก็เพราะมีปรมัตถธรรมคือจิต เจตสิก รูป เกิดดับสืบต่อ) เพราะต้องมีความเป็นไปของจิตเป็นปกติ ที่ต้องรู้นิมิตของสภาพธรรม และบัญญัติ หลังจากการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบทางกาย และการรู้สิ่งที่ปรากฏทางใจ
* แต่ผู้มีปัญญาสามารถรู้จักโลกตามความเป็นจริง คือระลึกรู้ตรงลักษณะสภาพธรรม จึงรู้ว่าบัญญัติ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ คำพูด เรื่องราว ไม่ใช่สภาพธรรมที่มีจริงๆ
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ