ขณะที่ได้ยินข่าวที่มีผู้ที่ถูกทำร้ายจากโจร ทั้งๆ ที่เขาไม่มีความผิด
1. ขณะนั้นเป็นอกุศลวิบากเกิดทางโสตทวาร ที่เราทำมาจึงต้องได้ยิน ใช่ไหมคะ
2. ขณะที่ไม่ชอบข่าวนั้น เพราะสงสาร หรือหวั่นไหว เป็นอกุศลจิตจากการสะสมความเห็นผิดว่ามีคน มีเขา ใข่ไหมคะ
3. ความมั่นคงในความเห็นถูก และเข้าใจเรื่องผลของกรรม จะสงเคราะห์กับกุศลจิตในกรณีนี้ได้อย่างไรคะ
4. การเมตตาผู้ที่ทำร้าย ว่าเพราะเขาไม่รู้ ทำใจยากมาก แต่ความขุ่นเคืองเดือดร้อนหวั่นไหวก็เป็นการสะสมอกุศลจิต 7 ขณะ เพื่อจะรับวิบากได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ในอนาคตอีกหรือไม่คะ หรือหนักกว่านั้น ถ้าถึงกับเกลียดชัง อาจส่งผลจะต้องไปพบเจอเหตุเช่นนี้เองด้วยหรือไม่คะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่ได้ยินข่าวที่มีผู้ที่ถูกทำร้ายจากโจร ทั้งๆ ที่เขาไม่มีความผิด
1. ขณะนั้นเป็นอกุศลวิบากเกิดทางโสตทวาร ที่เราทำมาจึงต้องได้ยิน ใช่ไหมคะ
@ การได้ยินเป็นจิตที่เป็นชาติวิบาก แต่เรื่องราวไม่ใช่วิบาก แต่เป็นอารมณ์ที่เป็นบัญญัติ ดังนั้น การคิดว่าเป็นเรื่องโจร เป็นใคร ที่เราไม่ชอบ ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเป็นกุศลวิบาก หรือ อกุศลวิบาก เพราะเป็นเรื่องโจร แต่การจะตัดสินว่าเป็นกุศลวิบาก อกุศลวิบากทางหู ที่เป็นการได้ยิน ก็ต้องมีปรมัตถ์เป็นอารมณ์ คือ เสียง ที่ไม่ใช่เรื่องราวที่เป็นเรื่องโจร ขณะนั้น ถ้าได้ยินเสียงที่ดังไป ก็เป็นอกุศลวิบาก ที่เกิดจากการเปิดเสียงทีวีดัง หรือแม้จะฟังดนตรีที่ไพเราะ แต่เปิดดังมาก ถ้าเราคิดเป็นเรื่องราว ว่าเป็นดนตรีที่เพราะ หรือ เพราะ เราชอบ แต่ความจริงต้องเป็นเพียงเสียงเท่านั้น ซึ่งท่านอาจารย์สุจินต์ ได้อธิบายว่า บางทีเราคิดว่าฟังเพลงเพราะ แต่เป็นอกุศลวิบากก็ได้ ไม่ได้อยู่ที่ความคิด แต่เสียงนั้นดังไปก็ได้ เช่นเดียวกับการดูข่าว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมมติว่าเป็นเรื่องโจร ข่าว เสียงนั้นจะเป็นอกุศลวิบากตามที่เราไม่ชอบ ครับ
2. ขณะที่ไม่ชอบข่าวนั้น เพราะสงสารหรือหวั่นไหว เป็นอกุศลจิตจากการสะสมความเห็นผิดว่ามีคน มีเขา ใข่ไหมคะ
@ ถูกต้องครับ
3. ความมั่นคงในความเห็นถูก และเข้าใจเรื่องผลของกรรม จะสงเคราะห์กับกุศลจิตในกรณีนี้ได้อย่างไรคะ
@ มีแต่ธรรม ไม่มีใครทำใคร แต่เพราะความยึดถือ จึงเกิดอกุศลเป็นธรรมดา และควรเข้าใจถูก ที่สำคัญมาก คือ สะสมอกุศลมามาก เป็นธรรมดาที่จะเกิดอกุศลเป็นปกติ และเกิดแล้วด้วยคือ อกุศล ไม่ลืมว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา แม้อกุศลที่เกิดขึ้น ครับ
4. การเมตตาผู้ที่ทำร้าย ว่าเพราะเขาไม่รู้ ทำใจยากมาก แต่ความขุ่นเคืองเดือดร้อนหวั่นไหว ก็เป็นการสะสมอกุศลจิต 7 ขณะ เพื่อจะรับวิบากได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ในอนาคตอีกหรือไม่คะหรือหนักกว่านั้น ถ้าถึงกับเกลียดชัง อาจส่งผลจะต้องไปพบเจอเหตุเช่นนี้เองด้วยหรือไม่คะ
@ อกุศลจิตที่เป็นโทสะ ไม่ได้มีการฆ่า ครบกรรมบถ ไม่ได้ให้เกิดวิบาก เพียงแต่สะสมอุปนิสัยให้เป็นผู้มักโกรธ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อมีโสตปสาทะ คือมีหู ก็เป็นธรรมดาที่จะมีการได้ยินเสียง ที่น่าปรารถนาบ้าง ไม่น่าปรารถนา บ้าง เป็นไปตามเหตุปัจจัย นั้นก็คือเมื่อถึงคราวที่กุศลกรรมให้ผล ก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ดีน่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรมก็ทำให้ได้ยินเสียงที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ และที่สำคัญ ไม่ใช่มีเพียงแค่ได้ยินเท่านั้น ยังมีการคิดเป็นเรื่องราวต่างๆ เป็นบุคคลนั้น บุคคลนี้ เป็นบุคคลที่ถูกทำร้ายจากโจร เป็นต้น
-เป็นธรรมดาที่อกุศลจิต เกิดขึ้นเป็นไปมากในชีวิตประจำวัน หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของอกุศล แม้แต่การได้ยินข่าวดังกล่าวก็หวั่นไหวไปแล้ว ด้วยความไม่พอใจ เป็นอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่
-ถ้ามีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ความหวั่นไหวก็จะน้อยลง ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย การได้รับสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ในกรณีต่างๆ ไม่มีใครทำให้ ต้องมีเหตุที่ผู้นั้นได้กระทำมาแล้ว ผลจึงเกิดขึ้น
-ไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งได้จริงๆ นอกจากความเข้าใจพระธรรม ความเข้าใจพระธรรมจะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดี เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตกไปในฝักฝ่ายของอกุศล เพราะฉะนั้นแล้ว ก็จึงต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตอาจารย์ทั้งสองท่านมากค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ