ฉันอาหารมื้อเดียว
โดย pth.n  17 มี.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31637

ที่ว่าฉันอาหารมื้อเดียวมีความหมายว่าอย่างไร (ตามความคิดน่าจะรับประทานอาหารในหนึ่งวันเพียงครั้งเดียว)



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 18 มี.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยสำหรับผู้ที่เห็นโทษของกิเลส เห็นโทษของความวุ่นวายในเพศคฤหัสถ์ ออกบวชเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย การกระทำและความเป็นอยู่ของท่านจึงต่างจากคฤหัสถ์ราวฟ้ากับดิน การบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับพระภิกษุต้องเป็นเวลาที่สมควร คือ ตั้งแต่อรุณขึ้นจนถึงเที่ยงวันเท่านั้น เลยเวลาเที่ยงไปเรียกว่าเวลาวิกาล เป็นเวลาที่ไม่สมควรในการบริโภค ถ้าหากพระภิกษุบริโภคอาหารหลังเที่ยง เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เป็นโทษสำหรับผู้ล่วงละเมิด
เวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ในการบริโภคอาหารสำหรับพระภิกษุทั้งหลาย คือ ตั้งแต่อรุณขึ้นจนถึงเที่ยง นั้น จะฉันตอนไหนก็ได้ในระยะเวลาดังกล่าว ถ้าฉันอาหารในเวลาเช้าถึงเที่ยง แม้จะฉันหลายครั้ง ก็เรียกว่า ฉันมื้อเดียว คือ ไม่มีมื้อที่ ๒ เพราะท่านไม่ได้บริโภคอาหารในเวลาวิกาล ตรงกับข้อความใน

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๙๙ ดังนี้ว่า
"บทว่า เอกภตฺติโก ความว่า ภัตมี ๒ มื้อ คือ ภัตที่พึงกินเวลาเช้า ๑ ภัตที่พึงกินเวลาเย็น ๑ ในภัต ๒ มื้อนั้น ภัตที่พึงกินเวลาเช้ากำหนดด้วยเวลาภายในเที่ยงวัน ภัตที่พึงกินเวลาเย็นนอกนี้ กำหนดด้วยเวลากินเที่ยงวันภายในอรุณขึ้น ฉะนั้น แม้จะฉันสัก ๑๐ ครั้ง ในเวลาภายในเที่ยงวัน ก็เป็นผู้ชื่อว่าฉันมื้อเดียวนั่นเอง. ที่ตรัสว่า มีภัตมื้อเดียว ดังนี้ ทรงหมายถึงภัตที่พึงกินเวลาเช้า นั้น"
อีกประการหนึ่ง เวลาอ่านพระไตรปิฎก จะพบคำว่า เอกาสนิกังคะ แปลว่า องค์แห่งภิกษุผู้มีการฉัน ณ อาสนะเดียว (ที่นั่งเดียว) เป็นปกติ กล่าวคือ นั่งฉันอาหาร ณ ที่นั่งที่เดียวจนกว่าจะฉันเสร็จ ไม่นั่งหลายที่ โดยความหมายแล้ว ก็คือ ในช่วงเวลาอรุณขึ้นจนถึงเที่ยง จะบริโภคอาหารเพียงครั้งเดียว เมื่อนั่งแล้วก็ฉัน ณ ที่นั้นจนเสร็จ หลังจากนั้นก็จะไม่ฉันอาหารอะไรอีกเลย อันนี้ไม่ได้มีพระวินัยบัญญัติว่าจะต้องฉัน ณ อาสนะเดียวหรือฉันครั้งเดียว แต่มีสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า พระภิกษุ จะฉันอาหารในเวลาวิกาลไม่ได้ ดังนั้น ในช่วงเวลาอรุณขึ้นจนถึงเที่ยง พระภิกษุ จะฉันกี่ครั้ง ก็ย่อมได้ ซึ่งก็ต้องดูสิกขาบทอื่นประกอบด้วยว่า เป็นอาหารที่ได้รับประเคนเรียบร้อย เป็นต้น
ดังนั้น ก็เข้าใจได้ว่า ถ้ายังอยู่ในเวลาเช้าถึงเที่ยง ก็เรียกว่า ฉันมื้อเดียว เพราะไม่ได้ฉันในเวลาวิกาล (กล่าวคือ ไม่มีมื้อที่ ๒) แต่ถ้าเป็นผู้จะขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ก็ฉันครั้งเดียว ซึ่งตรงกับคำว่า เอกาสนิกังคะ นั่นเอง ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย pth.n  วันที่ 18 มี.ค. 2563

สาธุค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 21 มี.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ