การเดินจงกรมเป็นการเดินเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ ไม่ได้หมายถึงการปฏิบัติธรรมแต่ผู้ที่มีปกติอบรมเจริญปัญญาท่านเจริญสติปัฏฐานทุกอิริยาบถ
คลิกอ่านพระสูตร ..
จังกมสูตร ว่าด้วยอานิสงส์แห่งการจงกรม ๕ ประการ
ขอบคุณที่ตอบค่ะ _/|_
แล้วสมัยนี้ ที่เขาสอนให้เดินจงกรม โดยท่องว่า ซ้ายย่างหนอ
ขวาย่างหนอ ปัญญารู้ อะไรคะ?
ถ้าเป็นวิปัสสนา ปัญญาต้องรู้สภาวธรรม
เขาก็บอกว่ารู้สภาวธรรมค่ะ เห็นไตรลักษณ์ เห็นการเกิดดับ แต่หนูคิดว่า ญาตปริญญาเขายังไม่ได้ การที่เขาจะเห็นไตรลักษณ์เป็นอฐานะ คงจะเป็นการคิดเดาเอาเองเท่านั้น
การเดินจงกรม คือ การเดินไปเดินมา เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถ จากการนอน
การนั่ง เป็นการเดิน กิจของพระภิกษุจริงๆ มี 2 ประการ คือ คันธะธุระ และวิปัสสนาธุระ คันธะธุระ
คือ การศึกษาพระธรรม วิปัสสนาธุระ คือ การเจริญสติปัฐฐาน ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ การเจริญสติปัฏฐานทุกอิริยาบถ จึงเป็นปกติของผู้ที่อบรมเจริญปัญญาไม่เจาะจง
ว่าจะต้องเป็นการเดินจงกรม หรือ ทำอย่างอื่น นั่นหมายถึง เป็นตัวตน เป็นเราที่จัดกระ-
ทำขึ้น ซึ่งผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตา คือ ไม่มีสัตว์
บุคคล ตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นธรรมะ ธรรมะต้องทำหน้าที่ของธรรมะ เช่น สติ ทำหน้าที่ระลึกรู้สภาพธรรมะที่ปรากฏทาง
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (ทวารทั้ง 6) ปัญญาทำหน้าที่รู้แจ้ง เข้าใจถูกต้อง ตาม
สภาพธรรมะที่ปรากฏทางทวารทั้ง 6
การศึกษาพระไตรปิฎก อันดับแรก ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานอย่างถูกต้องว่า ธรรมะ
คืออะไร ต้องมั่นคงเรื่อง อนัตตา พระไตรปิฎก ถูกถ่ายทอดมาจาก พระอรหันต์ ผู้ซึ่งไม่มีกิเลสแล้ว แต่เราปุถุชน
ที่มีกิเลสแน่นหนา ทุกอย่างจะเป็นเราที่จะกระทำหมด เพราะเคยชินกับความเป็นตัวตน
เป็นเราโดยลืมไปว่าทุกอย่างคือธรรมะ
เมื่อเป็นผู้ที่เข้าใจในข้อปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้สติเจริญขึ้น และความเห็นถูกในสภาพธรรมก็ค่อยๆ เจริญขึ้นด้วย โดยที่จะไม่มีการทำอะไรที่ผิดปกติ
อนุโมทนาค่ะ