ทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเป็นคำที่แสดงถึงความจริงที่กำลังมีขณะนี้ ขณะที่ค่อยๆ ฟัง พิจารณาไตร่ตรองในคำที่ได้ฟังว่าหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะจริงๆ อย่างไร ขณะที่ค่อยๆ เข้าใจขึ้นขณะนั้นก็มีเจตนาเจตสิกเป็นเจตสิกที่จงใจ ตั้งใจที่จะเข้าใจความจริงขณะนั้นซึ่งเป็นเป็นกุศลเจตนาเป็นมโนสัญเจตนาหารที่นำมาซึ่งผลคือกุศลที่ประกอบด้วยความเข้าใจธรรม ท่านอาจารย์ได้อธิบายกุศลเจตนาที่เกิดขึ้นโดยนัยของปฏิจจสมุปบาทคือสังขาร เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิวิญญาณ
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 570
อธิบายว่า กวฬิงการาหาร เป็นปัจจัยพิเศษของรูปกาย ของสัตว์ทั้งหลายผู้มีกวฬิงการาหารเป็นภักษา (เป็นของกิน) ผัสสาหาร เป็นปัจจัยพิเศษของเวทนาในหมวดนาม มโนสัญเจตนาหารเป็นปัจจัยพิเศษของวิญญาณ วิญญาณเป็นปัจจัยพิเศษของนามรูป
ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ร่างกายนี้อาศัยอาหารจึงดำรง (ชีพ) อยู่ได้ ไม่มีอาหาร ดำรง (ชีพ) อยู่ไม่ได้ ฉันใด เหมือนอย่างเวทนาเกิดมีเพราะผัสสะเป็นปัจจัย วิญญาณเกิดมีเพราะสังขารเป็นปัจจัย นามรูปเกิดมีเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย.
ถามว่า ก็ในอาหารวาระนี้ อาหารอะไร นำอะไรมาให้?
ตอบว่า กวฬิงการาหาร นำรูปมีโอชาเป็นที่ ๘ มาให้ (อวินิพโภครูป ๘), ผัสสาหาร นำเวทนา ๓ มาให้, มโนสัญเจตนาหาร นำภพทั้ง ๓ มาให้ วิญญาณาหาร นำนามรูปในปฏิสนธิมาให้. นำมาให้อย่างไร? (นำมาให้อย่างนี้) คือ ก่อนอื่น กวฬิงการาหาร เพียงแต่วางไว้ในปากเท่านั้นก็ก่อตั้งรูปทั้ง ๘ ขึ้น (สร้างรูปทั้ง ๘ ขึ้น) .
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ..
มโนสัญเจตนาหาร ได้แก่ เจตนาเจตสิก
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ และกราบยินดีในความดีคุณสุคิน และทุกท่านค่ะ
กราบยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
เชิญคิกฟังเพิ่มได้ที่ ...
ฟังพระธรรมเพื่อให้เข้าใจ
กราบยินดีในความดีทุกท่านค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ