ธรรมเป็นเรื่องละเอียด ไม่สามารถคิด หรือปฏิบัติเอง โดยไม่ฟังพระธรรม นี่เป็นข้อที่สำคัญมาก
ขอเชิญรับฟัง ...
ฟังพระธรรมเพื่ออะไร
การฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงที่ปรากฏในขณะนี้ และธรรมทั้งหลายก็มีสภาวะมีลักษณะของตน แต่ละอย่าง แต่ละทาง เพราะถ้าเราไม่เคยได้ยินได้ฟังพระธรรม เราก็จะรวมสภาพธรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เพราะฉะนั้นสภาพธรรมไม่ปะปนกัน ทางตาก็ไม่ใช่ทางหู และทางหูก็ไม่ใช่ทางกาย และแต่ละทางก็เกิดไม่ได้พร้อมกันเลย การที่เราสนใจใส่ใจในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นก็เป็นการอบรมปัญญา แล้วการเจริญขึ้นของสติสัมปชัญญะที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า ต้องรู้ก่อน ก็คือขณะที่มีสติกับหลงลืมสติ เพราะฉะนั้นก็คือขณะที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏแต่ละทาง
ขอเชิญรับฟัง ...
เริ่มฟังพระธรรมให้เข้าใจเสียก่อน
ข้อความบางตอน ...
พระผู้มีพระภาคไม่ได้ทรงแสดงหนทางซึ่งผู้อื่นประพฤติปฏิบัติมาแล้ว คือ สมถภาวนา แต่ทรงแสดงหนทางที่จะทำให้รู้แจ้งสภาพธรรม จนกระทั่งสามารถดับกิเลสได้จริงๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องวัน สองวัน หรือชั่วโมงเดียว ๒ ชั่วโมง เป็นเรื่องที่เราจะต้องเป็นผู้ตรงต่อตัวเราเองว่า การฟังแต่ละครั้งทำให้เรามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นสักนิดหน่อยหรือเปล่า หรือว่าเพิ่มขึ้นมาก
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะผู้ที่สามารถคิดถูก ปฏิบัติถูก โดยไม่ต้องฟังพระธรรม (คือ สามารถตรัสรู้ได้เอง โดยไม่ต้องฟังคำสอนของผู้ใด) มีเพียงบุคคล 2 ประเภท เท่านั้น คือ
1. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตรัสรู้แล้ว สามารถสอนผู้อื่นให้ตรัสรู้ตามได้)
2. พระปัจเจกพุทธเจ้า (ตรัสรู้แล้ว ไม่สามารถสอนผู้อื่นให้ตรัสรู้ตามได้)
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ