[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 813
ทุติยปัณณาสก์
สีติวรรคที่ ๔
๒. ภัพพสูตร
ว่าด้วยผู้ควร และไม่ควรเข้าถึงธรรม
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 36]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 813
๒. ภัพพสูตร
ว่าด้วยผู้ควร และไม่ควรเข้าถึงธรรม
[๓๕๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควร เพื่อก้าวลงสู่ความแน่นอน ความเป็นชอบ ในกุศลธรรมทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน? คือ เป็นผู้ประกอบด้วยความเป็นผู้มีกรรม เป็นเครื่องกั้น ๑ ประกอบด้วยความเป็นผู้มีกิเลส เป็นเครื่องกั้น ๑ ประกอบด้วยความเป็นผู้มีวิบาก เป็นเครื่องกั้น ๑ เป็นผู้ไม่มี
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 814
ศรัทธา ๑ ไม่มีฉันทะ ๑ และมีปัญญาทราม ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ นี้แล แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ไม่ควร เพื่อก้าวลงสู่ความแน่นอน ความเป็นชอบในกุศลธรรมทั้งหลาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ควรเพื่อก้าวลงสู่ ความแน่นอน ความเป็นชอบ ในกุศลธรรมทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน? คือ ย่อมเป็นผู้ไม่ประกอบด้วยความเป็นผู้มีกรรม เป็นเครื่องกั้น ๑ ไม่ประกอบด้วยความเป็นผู้มีกิเลส เป็นเครื่องกั้น ๑ ไม่ประกอบด้วยความเป็นผู้มีวิบาก เป็นเครื่องกั้น ๑ เป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีฉันทะ ๑ และมีปัญญา ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ นี้แล แม้ฟังสัทธรรมอยู่ ก็เป็นผู้ควร เพื่อก้าวลงสู่ความแน่นอน ความเป็นชอบ ในกุศลธรรมทั้งหลาย.
จบภัพพสูตรที่ ๒
อรรถกถาภัพพสูตรที่ ๒
พึงทราบวินิจฉัย ในภัพพสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้:-
บทว่า กมฺมาวรณตาย ได้แก่ ด้วยอนันตริยกรรมทั้ง ๕. บทว่า กิเลสาวรณตาย ได้แก่ ด้วยนิยตมิจฉาทิฏฐิ. บทว่า วิปากาวิวรณตาย ความว่า ด้วยอกุศลวิบากปฏิสนธิ หรือด้วยกุศลวิบาก อเหตุกปฏิสนธิ.
จบอรรถกถา ภัพพสูตรที่ ๒