กราบเรียนถามค่ะ
ต้องขออภัยนะคะ ที่เกิดความสงสัยว่า เวลาที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแล้ว ทำไมบุคคลที่ได้ฟังจะต้องกล่าวคำที่เหมือนกัน คือ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง ฯ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไพเราะอย่างยิ่ง เพราะเป็นพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ไม่มีผิดเลย เป็นคำสอนที่สอนให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ตรงตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของพระธรรมคำสอน ก็คือ เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกโดยตลอด และที่จะเห็นถึงความไพเราะอย่างยิ่งของพระธรรมได้ ต้องเป็นผู้มีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรม ได้ฟังและมีความเข้าใจ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในสมัยพุทธกาล ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความเข้าใจจากการที่ได้ฟังความจริง จึงมีการชื่นชมพระภาษิตของพระองค์ ว่า พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น ไพเราะอย่างยิ่ง นำมาซึ่งความแจ่มแจ้ง เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง เหมือนส่องประทีปในที่มืด ด้วยหมายว่าคนผู้มีจักษุ (ตา) จักเห็นรูปได้ ซึ่งทั้งหมดก็มาจากเหตุที่สำคัญคือได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ความเข้าใจถูกเห็นถูก เกิดขึ้น เพราะได้อาศัยพระธรรมเทศนาของพระองค์ แล้วจะไม่ให้ชื่นชมสรรเสริญได้อย่างไร ครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องประทีปในที่มืด
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
คำสรรเสริญนี้เป็นสำนวนที่แต่งขึ้นใช่ไหมคะ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว บุคคลจะกล่าวคำสรรเสริญเหมือนกันทุกคำ ไม่แตกต่างกันเลย ทั้งๆ ที่คำสรรเสริญมีตั้งมากมาย จะเป็นไปได้หรือคะ
ขออนุโมทนาครับ
ท่านสีหเสนาบดีได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคว่า
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยเอนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระองค์โปรดทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป
รับฟัง และ อ่านรายละเอียด
เรื่อง สีหเสนาบดี*