ไม่ใช่เพื่อจำเอาไปสนทนากันเฉยๆ ถ้าศึกษาเรื่องของ จิต เจตสิก และรูปมากทีเดียว แต่ไม่เข้าใจเรื่องการเจริญสติป้ฏฐาน จะมีประโยชน์ไหม (ควรศึกษาเพื่อเกื้อกูลต่อการเจริญสติปัฏฐาน ให้เห็นความเป็น "อนัตตา" ของสภาพธรรมที่มีจริงๆ )
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก ตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรม ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ใช่เพื่อจำชื่อ จำพยัญชนะ จำเรื่องราวต่างๆ แต่เพื่อเข้าใจถูกเห็นถูก ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง
ซึ่งจะต้องเริ่มต้นด้วยความตั้งใจที่จะศึกษา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้กล่าวให้ข้อคิดเตือนใจสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาธรรมว่า "ถ้าเริ่มฟัง เริ่มศึกษาด้วยความตั้งใจจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เข้าใจ" นั่นหมายความว่า ถ้ามีความตั้งใจจริงๆ เห็นประโยชน์จริงๆ ไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษาความรู้ความเข้าใจ ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นอย่างแน่นอน การศึกษาธรรม ก็คือ ศึกษาสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่า เป็นธรรม ทุกขณะเป็นธรรมจริงๆ ไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม ไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป เลย ฟังส่วนไหน ศึกษาส่วนไหน ก็ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย การฟังบ่อยๆ เนืองๆ จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ทำให้มีความมั่นคงในเหตุในผลของธรรม จนกว่าจะประจักษ์แจ้งได้จริงๆ ว่า ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไปเท่านั้นเอง ครับ.
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่ครับ
การศึกษาธรรมะเพื่ออะไร
ธรรมะ ปรมัตถธรรม อภิธรรม
ปรมัตถธรรม คือ สิ่งที่มีจริง
การศึกษาธรรมะไม่ใช่ให้คิดว่าฟังแล้วต้องไปทำ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร
การศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร และ อย่างไร
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้ นั่นคือ เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังปรากฏ ซึ่งในความเป็นจริง ซึ่งก็ไม่พ้นจาก จิต เจตสิกและรูป ครับ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ทุกคำ ก็มาจากสภาพธรรมที่มีจริง แต่พระองค์อาศัยสภาพธรรมที่มีจริง จึงบัญญัติชื่อ เรื่องราว เพื่อให้ผู้ที่ฟังได้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ดังนั้น อาศัยชื่อ เพื่อเข้าใจตัวจริงของสภาพธรรม ดังนั้นหากสนทนาในสิ่งที่ไม่รู้และไม่เข้าใจว่าคือสภาพธรรมในขณะนี้ ก็ไม่ต่างจากการบ่นเพ้อธรรม บ่นเพ้อในเรื่องที่ยังไม่รู้ และไม่รู้ว่า คือ สภาพธรรมในขณะนี้เองครับ ดังนั้น ศึกษาพระธรรม เพื่อเข้าใจตัวจริงและเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ครับ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณและอนุโมทนาคุณเซจาน้อย และทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"ศึกษาธรรมเพื่ออะไร"
เป็นข้อความเตือนสติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับตนและผู้ที่ศึกษาธรรมทุกๆ ท่าน
"เพื่อเจริญสติปัฏฐานระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฎตามความเป็นจริง"
ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ศึกษาธรรมเพื่อให้เกิดการรู้แจ้งในความจริงของตัวเรา ซึ่งเป็นการทำงานกันอยู่ของธาตุทั้งสี่ การเข้าใจความจริงจึงจะเข้าใจความเป็นสมมติของธรรมชาติ การทำงานของตัวเรา มีจิต (สภาพรู้) เจตสิก (จิตรู้รูป) เรารู้สิ่งต่างๆ ผ่านทวารหก การปฏิบัติสติปัฐานสี่ เพื่อให้ระวังการเกิดเจตสิก (อารมณ์ ความรู้สึก) ที่จะเข้ามาทางทวารต่างๆ นั่นเอง ให้เห็นการปรุงแต่งกันเกิดขึ้น เพื่อการรู้เท่าทันมัน เพื่อการไม่หลงอยู่ในความเป็นธรรมชาติของตนเอง
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อธิบายธรรม เข้าใจง่ายดี
ขออนุโมทนาครับ