เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (7)
โดย kanchana.c  11 ส.ค. 2559
หัวข้อหมายเลข 28068

ขอกล่าวถึงวันหนึ่งที่ได้ไปนมัสการพระนารทะ (Narada Maha Thera) เป็นวันเสาร์ที่ ๙ เมษายนซึ่งเป็นวันปิดสัมมนา วันนั้นเป็นวันว่าง เพราะฉะนั้น ตอนบ่ายก็ไปนมัสการท่านพระนารทะที่วชิราราม ท่านพระนารทะเป็นพระที่สอนพระอภิธรรมและวิปัสสนา และก็เขียนตำราไว้มาก ซึ่งชาวต่างประเทศทุกคนที่ศึกษาพระอภิธรรม และก็สนใจตำรับตำราของชาวศรีลังกา ทุกคนจะต้องรู้จักและได้เคยอ่าน

วันนั้นที่ไปนมัสการท่าน ท่านก็ปรารภว่า ชาวศรีลังกาเข้าใจว่า คณะที่มาไม่สนใจศึกษาพระอภิธรรมและวิปัสสนา นี่เป็นเสียงของชาวบ้านบางคน เพราะว่าพวกที่ไปฟัง เป็นของธรรมดาแน่นอนที่สุดที่ว่าเคยสนใจศึกษาธรรมแบบศึกษาตามครูอาจารย์ และมีความรักครูอาจารย์ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าได้ยินได้ฟังอะไรที่ผิดไปจากที่เคยได้ฟังจากครูอาจารย์ ย่อมไม่เป็นที่พอใจ

เพราะฉะนั้น เสียงจึงไปสู่ท่านพระนารทะว่า คณะที่มานี้ไม่สนใจสนับสนุนการศึกษาพระอภิธรรมและวิปัสสนา เลยกราบเรียนท่านพระนารทะว่า สนใจที่จะส่งเสริมการศึกษาอภิธรรมในชีวิตประจำวันจริงๆ เช่น ในขณะนี้ที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้เป็นอเหตุกจิต เป็นวิบากจิต เกิดขึ้นได้อย่างไร กำลังได้ยินเดี๋ยวนี้ ที่กล่าวไว้ในอภิธรรมว่าเป็นอเหตุกจิต เป็นโสตวิญญาณ ขณะที่กำลังได้ยินขณะนี้กำลังเป็นอเหตุกจิต ไม่ประกอบด้วยเหตุ ยังไม่มีโลภะ โทสะ โมหะเกิดร่วมด้วย ขณะที่ได้ยินนี้เป็นเพียงวิบาก และสำหรับเรื่องวิปัสสนาก็เป็นเรื่องการสนับสนุนวิปัสสนาที่ถูกต้อง

กราบเรียนท่านอย่างนี้ว่า สำหรับการศึกษาปริยัติ อภิธรรม ก็ไม่สนใจที่จะให้เพียงศึกษาโดยการอ่าน แต่ว่าเน้นหลักที่ความเข้าใจพระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน เมื่ออ่านแล้วก็ศึกษาพระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน สำหรับวิปัสสนาก็เช่นเดียวกัน คือ ไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนวิปัสสนาที่ผิด และสนับสนุนการปฏิบัติที่ถูก และก็ได้เรียนชี้แจงให้ท่านทราบ เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่มาก มีชื่อเสียงโด่งดังมากทีเดียวของชาวศรีลังกา ถ้าไปที่ศรีลังกา ทุกคนต้องบอกว่า ให้ไปนมัสการ ให้ไปฟังธรรม ให้อ่านหนังสือของท่าน

เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่ไปไม่เคยที่จะไม่ไปนมัสการท่านพระนารทะ สำหรับคราวนี้ก็เหมือนกัน แต่ไปช้า เพราะว่าไม่ว่าง คราวก่อนๆ ไปเร็ว เพราะว่าเป็นรายการที่ไปเอง ไม่ใช่เป็นรายการที่รับเชิญ ถ้าเป็นรายการที่รับเชิญก็ทำตามเจ้าของบ้านว่าเขาให้ทำอะไรบ้าง

เพราะฉะนั้น เมื่อมีวันว่างในวันนี้ก็ไปนมัสการในวันนี้ และก่อนที่จะนมัสการลาท่าน ก็ได้กราบเรียนถามท่านว่า เท่าที่ได้กราบเรียนท่านไปแล้ว ท่านเห็นว่าคณะของเราไม่สนใจพระอภิธรรมและไม่ส่งเสริมวิปัสสนาจริงหรือไม่ ท่านก็บอกว่า ไม่จริงหรอก เป็นผู้ที่สนใจส่งเสริมการศึกษาพระอภิธรรมและวิปัสสนา แต่ว่าคงจะมีการเข้าใจผิดกัน

ซึ่งเป็นของที่แน่นอนเรื่องเข้าใจผิด ท่านก็บอกว่าชาวศรีลังกาเขารู้ธรรมแล้ว เขาศึกษาแล้ว เขาเข้าใจแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น ตามจดหมายของท่านเจตนันทะที่เขียนถึงคุณโจนาธานจึงได้พูดถึงคณะของเราว่า มีขันติ ความอดทน และมีความกล้าหาญ

เรื่องกล้าหาญก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าเพื่อประโยชน์ของคนฟัง สิ่งใดที่ถูก ก็กล่าวถึงสิ่งที่ถูก สิ่งใดที่ผิดไม่ประกอบด้วยเหตุผล ก็จำเป็นต้องชี้แจงให้เห็นว่า สิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยเหตุผล ส่วนใครจะเกลียดจะชัง จะเลื่อมใส หรือจะไม่เลื่อมใสนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เลย แต่ว่าเรื่องธรรมต้องเป็นธรรมด้วย

เพราะฉะนั้น แม้แต่ในตอนหลังก็ยังต้องพูดกับคุณวชิราว่า สำหรับเรื่องธรรม ถูกก็ต้องเป็นถูก ผิดก็ต้องเป็นผิด เพราะว่าชาวลังกาเองรักเคารพในครูอาจารย์ของเขา เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าความเข้าใจธรรม เขาควรจะเทียบส่วนว่า ความเข้าใจธรรมเป็นเรื่องความเข้าใจธรรม ส่วนความรักเคารพครูอาจารย์ก็เป็นเรื่องรักเคารพครูอาจารย์ ก็ต้องแยกกัน ไม่ใช่รักเคารพครูอาจารย์จนกระทั่งทำให้ไม่สามารถจะเห็น หรือไม่สามารถที่จะเข้าใจธรรมได้

ทุกท่านมีสิทธิ์และมีความคิดเห็นของตนเองตามการสะสมมา ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ที่ศึกษาธรรม ท่านจะมีความคิดเห็นประการใดก็เป็นส่วนการที่ท่านได้ศึกษาและได้สะสมมา ไม่ได้มีจิตอคติ หรือไร้ความเมตตาต่อท่านเลย มีความเคารพท่านในฐานะที่ท่านเป็นพระภิกษุที่ท่านศึกษาธรรม แต่ส่วนความเห็นของท่านจะเป็นอย่างไร ตรงตามพระธรรมวินัยที่ได้ศึกษามาอย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ที่ท่านจะวินิจฉัย ไม่มีการที่เราจะไปทำอะไรได้ ลบหลู่ไม่ได้ อกุศลจิตก็ไม่ควรจะเกิดด้วยประการใดๆ ทั้งปวง เรื่องของท่านก็เป็นเรื่องของท่าน ถ้ามีโอกาสเมื่อไรที่จะได้สนทนากับท่าน ก็จะสนทนากับท่านตามตรง แล้วแต่โอกาส

ถ. (ได้ยินไม่ชัด)
สุ. ก็เป็นเรื่องธรรมดา เมืองไทยอย่างไร ศรีลังกาก็อย่างนั้น ประเทศอื่นๆ ก็เหมือนกันอย่างนั้น คือธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดและสุขุมลุ่มลึกจริงๆ

เวลาที่ฟังธรรมต้องเคารพในธรรม ในเหตุในผล อย่าเอาบุคคลขึ้นมาปิดกั้นการที่จะเข้าใจธรรมว่า คนนี้กำลังพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา หรือว่าผู้ที่เป็นที่เคารพ เป็นครูอาจารย์

ตอนที่จะกลับจากโคลัมโบก็ปรากฏว่า มีปฏิกิริยาย่อยๆ เพราะเหตุว่าชาวโคลัมโบเองรักเคารพครูอาจารย์ เพราะฉะนั้น เมื่อได้ฟังธรรม ไม่ทราบจะตัดสินอย่างไร ลำบากใจแล้ว และเท่าที่ได้ฟังมา ได้ยินมาว่าชาวศรีลังกาไม่พอใจที่ชาวศรีลังกาคนหนึ่งกล่าวว่า อาจารย์ของตนนั้นผิดพลาดไปแล้ว

ก็แสดงให้เห็นว่า ธรรมที่เป็นแนวที่ตรงไป ถ้าคนนั้นเป็นคนที่เคารพในธรรมจริงๆ จะไม่กระทบกระเทือน คือ ไม่เกิดอกุศล ครูอาจารย์ที่จะเคารพก็เคารพในฐานะในครูอาจารย์ แต่สูงที่สุดก็คือเหตุผลในพระธรรมวินัยซึ่งจะต้องศึกษาและปฏิบัติให้ตรง ต้องเคารพในพระธรรมยิ่งกว่าสิ่งอื่น แต่ก็ไม่ใช่จะขาดการเคารพส่วนตัวในครูอาจารย์

ธรรมก็เป็นเรื่องจริง เรื่องตรง ซึ่งต้องตรงกับธรรม ส่วนปฏิกิริยาอะไรจะเป็นอย่างไร มีผลมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าทำอย่างนิ่มนวล ด้วยความคุ้นเคยสนิทสนม เป็นที่รักใคร่ ก็ย่อมจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เพราะว่าคนเราถ้าชอบอัธยาศัยกัน หรือว่ามีความเข้าใจกันในเรื่องอื่น ก็ย่อมจะน้อมนำที่จะรับฟังมากกว่า

เพราะฉะนั้น การประพฤติ ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ได้ผลมากหรือได้ผลน้อยในการเผยแพร่พระธรรม ซึ่งจะต้องคำนึงถึงประเพณีและวัฒนธรรมของเขาด้วย ดังนั้นจึงเป็นการยาก

เพราะฉะนั้น ถ้าจะถามว่า สรุปผลได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ว่า ชาวศรีลังกาก็ได้ยินได้ฟังการศึกษาพระอภิธรรมในอีกลักษณะหนึ่ง คือ ในชีวิตประจำวันซึ่งตรงกับในพระไตรปิฎก และแม้แต่การปฏิบัติ การเจริญสติปัฏฐานก็เป็นการอบรมเพิ่มพูนปัญญาตามที่ทรงแสดงไว้ แต่ว่าจะมีใครเข้าใจได้มากน้อยเท่าไร นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดถึงจำนวนของผู้มีปัญญากับจำนวนของผู้รักเคารพในครูอาจารย์ และจำนวนของผู้ที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นใหม่ๆ หรือแนวใหม่

เพราะฉะนั้น เหมือนกัน ไม่ว่าที่นี่ หรือที่โน่น หรือที่ไหน

.........

ขอเชิญติดตามตอนต่อไปได้ที่ลิงค์ด้านล่าง.....

เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (8)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (9)



ความคิดเห็น 1    โดย s_sophon  วันที่ 13 ส.ค. 2559

สุขใจกับตัวเอง ที่ได้พบอาจารย์สุจินต์

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 13 ส.ค. 2559

ขออนุโมทนาครับ