จากพระสูตร ฉบับหลวง เล่มที่ ๓๑ หน้าที่ ๒๗๕ ข้อที่ ๕๗๕
เมตตาเจโตวิมุติแผ่ไปไม่เจาะจง ๕ อาการ
๑. สัตว์ทั้งปวง ๒. ปาณะทั้งปวง ๓. ภูตทั้งปวง ๔. บุคคลทั้งปวง ๕. ผู้นับเนื่องด้วยอัตภาพทั้งปวง
ปาณะ ภูต และผู้นับเนื่องด้วยอัตภาพ หมายถึงภพไหนได้บ้างหรือครับ
ปาณะและผู้นับเนื่องด้วยอัตภาพคือเทวดาตั้งแต่ชั้นรูปภพลงมาทั้งหมดใช่ไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออ้างอิงข้อความในอรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้า ๕๔๕ ดังนี้
ในบทมีอาทิว่า ปาณา มีความดังต่อไปนี้. ชื่อว่า ปาณา เพราะมีชีวิต ความว่าเพราะยังเป็นไปอาศัยลมหายใจเข้าและลมหายใจออกอยู่. ชื่อว่า ภูตา เพราะยังเป็นอยู่ ความว่า เพราะยังเกิดอยู่. ชื่อว่า ปุคฺคลา เพราะ ไปในนรกซึ่งท่านเรียกว่า ปุํ นั้น. สรีระหรือขันธปัญจกท่านเรียกว่าอัตภาพ หมายถึงอัตภาพ เพราะปรากฏเพียงบัญญัติ ชื่อว่า อตฺตภาวปริยาปนฺนา ผู้นับเนื่องด้วยอัตภาพ เพราะนับเนืองกำหนดหยั่งลงในอัตภาพนั้น. ท่านยกคำ ที่เหลือด้วยอำนาจแห่งรุฬหิศัพท์ (ศัพท์ที่ขยายความ) แล้วพึงทราบว่า คำทั้งหมดนั้นเป็นไวพจน์ของสัตว์ทั้งปวง
สรุปได้ว่า
*คำว่า สัตว์ทัังหลาย ครอบคลุมสัตว์ทุกภพภูมิเลย
*คำว่า ปาณะ หมายถึง สิ่งที่มีชีวิตอันเกิดจากกรรมที่มีรูปชีวิตินทรีย์และชีวิตินทรีย์เจตสิก ถ้าเป็นสัตว์ที่มีลมหายใจ ก็ตั้งแต่เทวดาทั้ง ๖ ชั้น ลงมาจนถึงสัตว์ในอบายภูมิ
*คำว่า ภูตะ หมายถึง ผู้เกิดแล้ว โดยกว้างก็ครอบคลุมสัตว์ทุกภพภูมิ บางแห่งแสดงแคบกว่านั้น หมายถึง อสัญญสัตตาพรหม (เอกโวการภพ) และ ผู้เกิดในอรูปพรหมภูมิ (จตุโวการภพ)
*คำว่าผู้นับเนื่องด้วยอัตภาพ หมายถึง ผู้พร้อมด้วยขันธ์ทั้ง ๕ คือ มีทั้งรูปธรรมและนามธรรม ก็ได้แก่ ผู้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ wheel และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
ยินดีในกุศลจิตครับ