สัมปยุตตธรรม และวิปปยุตตธรรม ต่างกันอย่างไร
สัมปยุตต์ แปลว่า ประกอบพร้อม หมายเอาเฉพาะนามธรรมที่เป็นสภาพรู้เท่านั้น ลักษณะสัมปยุตต์ มี ๔ คือ เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน เกิดวัตถุเดียวกัน
วิปปยุตต์ แปลว่า ไม่ประกอบทั่ว อธิบายว่า ไม่เกิดพร้อมกัน ไม่ดับพร้อมกัน ไม่รู้อารมณ์เดียวกัน ได้แก่ นามและรูปที่ไม่ปะปนกัน บางนัยหมายถึง วิปปยุตต์โดยความไม่มี
สัมปยุตต์ หมายถึง ประกอบพร้อม เช่น จิต เจตสิก เกิดพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียว กัน เป็นต้น
วิปปยุตต์ หมายถึง ไม่ประกอบ เข้ากันไม่ได้ เช่น จิตตชรูป รูปที่เกิดจากจิต (รูป นาม เข้ากันไม่ได้)
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
รบกวนยกตัวอย่าง สัมปยุตต์ ที่มีลักษณะ เกิดวัตถุเดียวกันค่ะ
สัมปยุตตธรรมเป็นลักษณะของนามธรรม คือ จิตและเจตสิกที่เกิดดับร่วมกันและรู้อารมณ์เดียวกัน สภาพธรรมที่เป็นสัมปยุตตธรรมนั้นต้องเป็นสภาพธรรมที่ร่วมกันสนิทโดยเป็นนามธรรมซึ่งเป็นธาตุรู้ที่เกิดพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน ดับพร้อมกัน และเกิดดับที่เดียวกัน คือ เกิดดับที่รูป (วัตถุ) ตามประเภทของจิตนั้นๆ
สัมปยุตต์
สํ (พร้อม) + ป (ทั่ว) + ยุตฺต (ประกอบ)
ประกอบทั่วพร้อม หมายถึง การประกอบร่วมกันของนามธรรมกับนามธรรม ซึ่งสามารถกลมกลืนเข้ากันได้สนิท ได้แก่ จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมกัน ซึ่งจะมีสัมปยุตตลักษณะ ๔ อย่างคือ
๑. เอกุปปาทะ เกิดพร้อมกัน
๒. เอกนิโรธะ ดับพร้อมกัน
๓. เอกาลัมพณะ มีอารมณ์เดียวกัน
๔. เอกวัตถุกะ เกิดที่เดียวกัน (ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ จึงอาศัยวัตถุเป็นที่เกิด)
จิตทุกขณะ และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย จะต้องเกิดที่รูป (วัตถุ) ตามประเภทของจิตนั้นๆ คือ
จักขุวิญญาณ ทำกิจเห็น เกิดที่ จักขุปสาทรูป (จักขุวัตถุ)
โสตวิญญาณ ทำกิจได้ยิน เกิดที่ โสตปสาทรูป (โสตวัตถุ)
ฆานวิญญาณ ทำกิจได้กลิ่น เกิดที่ ฆานปสาทรูป (ฆานวัตถุ)
ชิวหาวิญญาณ ทำกิจลิ้มรส เกิดที่ ชิวหาปสาทรูป (ชิวหาวัตถุ)
กายวิญญาณ ทำกิจรู้โผฏฐัพพะ (ธาตุดิน ไฟ ลม) เกิดที่ กายปสาทรูป (กายวัตถุ)
จิตอื่นๆ นอกจากนี้เกิดที่ หทยรูป (หทยวัตถุ)
ยินดีในกุศลจิตค่ะ