* อสัตบุรุษ คือผู้ที่เต็มไปด้วยอกุศลธรรม ไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ มีการสดับน้อย (ขาดการฟังพระธรรม) หลงลืมสติ ไม่มีปัญญา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นผู้มีความเห็นผิด และประพฤติปฏิบัติไปตามหนทางผิด ขัดแย้งกับพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
* เมื่อมีความเห็นผิด เพราะไม่ฟัง ไม่ไตร่ตรองตามพระธรรม ซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเคารพ จึงนำไปสู่สิ่งที่ผิดต่างๆ ต่อไปคือ :
- ความคิดผิด (มิจฉาสังกัปปะ) เพราะไม่ได้ไตร่ตรองตามพระธรรม แต่คิดธัมมะเอง ด้วยความเป็นตัวตน จึงคิดวิธีการต่างๆ ที่จะทำ เพื่อจะได้รู้แจ้งความจริง
- มีการวิรัติงดเว้นที่ผิดทางวาจา (มิจฉาวาจา) เช่น ปิดวาจา
- มีการวิรัติทางกายที่ผิด (มิจฉากัมมันตะ) เช่น ต้องไม่แต่งตัว เพราะเห็นผิดว่าเป็นการขัดเกลากิเลส
- มีการงดเว้นในการดำรงชีวิตที่ผิด (มิจฉาอาชีวะ) เช่น เว้นไม่บริโภคเนื้อสัตว์ ด้วยความเห็นผิดว่าเป็นการดำรงชีวิตที่ขัดเกลากิเลส
- มีความเพียรผิด (มิจฉาวายามะ) เช่น ไปทำ ไปปฏิบัติ จดจ้องต่างๆ ด้วยความเห็นผิดว่าเป็นหนทางที่จะขัดเกลากิเลส
- มีการระลึกผิด (มิจฉาสติ) เช่น เมื่อไปทำ ไปจดจ้อง แล้วคิดว่าได้รู้สึกตัวทั่วพร้อม
- มีการตั้งมั่นผิด (มิจฉาสมาธิ) เพราะไม่รู้ว่าสมาธิคืออะไร จึงไปทำสมาธิ จนมีความตั้งมั่นด้วยความติดข้องพอใจ และเห็นผิดว่าจะทำให้เกิดปัญญา รู้แจ้งสัจจธรรม
* อสัตบุรุษยิ่งกว่าอสัตบุรุษ คือตนเอง ก็เป็นผู้ที่มีความเห็นผิด ปฏิบัติผิด แล้วยังชักชวนผู้อื่นให้เห็นผิดและปฏิบัติผิดตามไปด้วย
* ดังนั้น ถ้ามีผู้มาชักชวน โดยอ้างครูอาจารย์ ให้ไปปฏิบัติธรรม ก็สมควรที่จะพิจารณาว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมว่า ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ก็เพื่อพุทธบริษัทจะได้อาศัยศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏ เป็นปกติในขณะนี้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ให้ต้องไปทำอะไร ที่ไหน ด้วยความเป็นตัวตน ซึ่งเป็นหนทางผิด
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และยินดีในกุศลค่ะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมว่า ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ก็เพื่อพุทธบริษัทจะได้อาศัยศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏ เป็นปกติในขณะนี้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ให้ต้องไปทำอะไร ที่ไหน ด้วยความเป็นตัวตน ซึ่งเป็นหนทางผิด
สาธุ สาธุ สาธุ