อ.ธีรพันธ์: เมื่อวานนี้ก็มีการสนทนา ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ส่วนใหญ่ถ้าศึกษาธรรมแบบได้ยินมาผ่านๆ คำว่า อนัตตา เหมือนกับว่าคำนี้ ถ้าไม่ฟังจริงๆ ก็จะไม่มีคำนี้เลย คำว่า อนัตตา มีแต่ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ครับ ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุไร ส่วนใหญ่ก็ได้ยินว่า สังขารไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ส่วนใหญ่ที่จะพูดว่า ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล มักจะไม่ค่อยได้ยินเลย
กราบเรียนท่านอาจารย์ตรงนี้ครับ
ท่านอาจารย์: ธรรมไม่ใช่สำหรับเพียงได้ยิน ได้ยินแล้วจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม? เพราะพระองค์เป็นผู้ที่ทรงตรัสรู้ว่า สิ่งที่มีจริงๆ นี้คืออะไร ไม่ได้ทรงตรัสรู้แล้วกล่าวว่า ธรรม สิ่งที่มีจริงนี้แหละเป็นธรรม
เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรม ไม่ใช่ว่า ฟังแล้วเข้าใจได้ทันที ไม่ใช่ฟังแล้วไม่ต้องศึกษาต่อ ไม่ใช่ฟังแล้วไม่ต้องรู้ความจริง ถ้าอย่างนั้นก็ไร้ประโยชน์
เพราะฉะนั้น แต่ละคำในสังสารวัฏฏ์ ไม่เคยได้ยินเลยมาก่อน ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่รู้ว่าจะมากมายสักเท่าไหร่ กี่พระองค์ก็ตาม เคยฟังมาบ้างไหม? และคำที่ได้ฟัง เริ่มเข้าใจขึ้นมากไหม? หรือว่า ไม่เข้าใจเหมือนเดิม ได้ยินแต่คำว่า ธรรม ได้ยินเท่านั้น แต่ไม่สามารถจะรู้ความจริงได้
เพราะเหตุว่า ถ้าทุกคนรู้ความจริงโดยไม่ต้องอาศัยผู้ที่ทรงบำเพ็ญบารมีที่จะตรัสรู้ถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คำนี้แค่ไหน? พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ที่ได้รู้ความจริงว่า หลับมานานไม่รู้อะไรเลย และก็ได้ยินได้ฟัง คำ ที่สามารถจะทำให้ตื่นขึ้นจากความฝัน หรือความไม่รู้ทั้งหมด เพิ่งค่อยๆ จะเข้าใจความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ แต่ยากที่สุดที่จะรู้ เพียงได้ยินไม่มีทางเลย
นอกจากจะเห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งของทุกคำ แล้วก็เห็นว่า ลึกซึ้งจนไม่สามารถที่จะไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วก็คิดว่า นี่คือ คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถูกไหม?
อ.ธีรพันธ์: หมายความว่า ความลึกซึ้ง คิดเอาเองก็คิดว่า ลึกซึ้งอย่างที่เราเข้าใจผ่านๆ แต่ว่ายังไม่ลึกซึ้งจริงๆ ครับ
ท่านอาจารย์: ความว่า ลึกซึ้ง กับความเข้าใจความลึกซึ้ง ต่างกันไหม?
อ.ธีรพันธ์: ต่างกันครับ
ท่านอาจารย์: ถ้าไม่พิจารณาไตร่ตรอง ชีวิตก็ว่างเปล่าจากการที่จะเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่มีวันที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมี น่ากลัวไหม?
อ.ธีรพันธ์: น่ากลัวมากครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จึงเห็นคุณอย่างยิ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ ประโยชน์สูงสุด เริ่มจากการไตร่ตรองทุกคำ และก็เห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่ง เคารพอย่างยิ่งในคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงความจริง ๔๕ พรรษา ให้ค่อยๆ รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ที่กำลังปรากฏให้รู้ว่า มีเดี๋ยวนี้ จนกว่าจะรู้ความจริง
ยากไหมว่า ความจริงนั้นคืออะไร ที่ลึกซึ้ง และยากอย่างยิ่งที่จะรู้ นี่ค่ะ ลึกซึ้ง และยากอย่างยิ่งที่จะรู้ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงพระมหากรุณาแสดงถึง ๔๕ พรรษา แต่ละคำ คิดว่าเข้าใจหมดไหม? คิดว่าเข้าใจได้ทันทีไหม? หรือว่า แต่ละคำ เห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่ง จนรู้ว่า ถ้าไม่ได้ฟัง คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพอย่างยิ่งต่อไป ไม่มีทางที่จะรู้จัก และเป็นผู้ที่ได้ฟัง คำ ของพระองค์ และประพฤติปฏิบัติตาม คำ ที่พระองค์ทรงแสดง
ตอนนี้คุณธีรพันธ์ประพฤติปฏิบัติตามคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วหรือยัง? หรือไม่?
อ.ธีรพันธ์: ก็ค่อยๆ เป็นไปครับท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์: ต้องเป็นความตรงที่สุด สูงสุด จนกระทั่งรู้ว่า ไม่มีอย่างอื่นที่จริงเท่ากับทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และควรที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจ ถ้าเข้าใจแล้ว
อ.ธีรพันธ์: ควรที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจด้วยครับ แต่ก็ยากอย่างยิ่งครับ
ท่านอาจารย์: ต้องเลือกไหม เฉพาะคนนั้น เฉพาะคนนี้ ไม่ใช่คนโน้น
อ.ธีรพันธ์: ไม่ควรเลือกครับ
ท่านอาจารย์: ผิดทันที ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยให้เลือก ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เฉพาะบางคนที่ต้องการ
ขอเชิญฟังได้ที่..
ชาวพุทธฟังพระธรรมเพื่ออะไร
เริ่มฟังพระธรรมให้เข้าใจเสียก่อน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ธีรพันธ์ ด้วยความเคารพค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
ชีวิตที่ว่างเปล่า เพราะไม่รู้ความจริง เป็นภัยที่น่ากลัวยิ่ง
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพอย่างสูง
กราบขอบพระคุณในกุศลธรรม อ.ธีรพันธ์ และ พี่เมตตาด้วยค่ะ