[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 71
อรรถกถาสูตรที่ ๗
๗. ประวัติอุคคตคฤหบดีชาวบ้านหัตถิคาม
ในสูตรที่ ๗ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า สงฺฆุปฏฺากาน ท่านแสดงว่า อุคคตคฤหบดีชาวบ้านหัตถิคาม เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้เป็นอุปัฏฐากภิกษุสงฆ์. ดังได้สดับมา อุคคตคฤหบดี นั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุลกรุงหังสวดี ต่อมา ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสกผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่ง เอตทัคคะ เป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้เป็นสังฆอุปัฏฐาก ทำกุศลให้ยิ่งยวด ขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น.
ท่านเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดในสกุลเศรษฐี บ้านหัตถิคาม พวกญาติได้ขนานนามว่า อุคคตกุมาร ต่อมา ท่านดำรงอยู่ในฆราวาสวิสัย บิดาล่วงลับไป ก็ได้ตำแหน่งเศรษฐี สมัยนั้น พระศาสดาทรงมีภิกษุสงฆ์แวดล้อม เสด็จจาริกไปถึงบ้านหัตถิคาม ประทับอยู่ ณ อุทยานนาคภวนะ ครั้งนั้น อุคคตเศรษฐีนี้ เมาน้ำเมาอยู่ถึง ๗ วัน ถูกเหล่านักฟ้อนรำห้อมล้อมไปยังอุทยานนาคภวนะบำเรออยู่ ครั้นเห็นพระทศพล ก็เกิดหิริโอตตัปปะ มีกำลัง เมื่อเขาเข้าเฝ้าพระศาสดา ความเมาสุราก็เหือดหายไปหมด เขาถวายบังคมพระศาสดาแล้วนั่ง ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้น พระศาสดาทรงแสดงธรรมแก่เขา จบเทศนา เขาก็แทงตลอดมรรคและผล ๓ ตั้งแต่นั้นมา เขาก็สละเหล่านักฟ้อนรำ ด้วยกล่าวว่า พวกท่านจงไปตามความพอใจเถิด เป็นผู้ยินดียิ่งนักในทาน ถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์เท่านั้น เทวดามาหาในระหว่างราตรีแล้วบอกแก่เศรษฐีว่า ท่านคฤหบดี ภิกษุรูปโน้นมีวิชชา ๓ ภิกษุรูปโน้นมีอภิญญา ๖ รูปโน้นมีศีล รูปโน้นทุศีล เขาสดับคำของเทวดานั้นแล้ว ก็รู้คุณตามเป็นจริงก่อนแล แต่เขาก็ยังถวายไทยธรรมด้วยจิตสม่ำเสมอทีเดียว แม้นั่งอยู่ในสำนักพระศาสดา ก็กล่าวแต่คุณนั้นนั่นแหละ ต่อมาพระศาสดาประทับนั่ง ณ พระเชตวันวิหาร ทรงสถาปนาคฤหบดีผู้นั้นไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสก ผู้เป็นอุปัฏฐากภิกษุสงฆ์ แล
จบอรรถกถาสูตรที่ ๗
ขออนุโมทนาครับ