ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๓๑
โดย khampan.a  24 ม.ค. 2559
หัวข้อหมายเลข 27392

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๓๑

~ เรื่องราวทั้งหมดในพระไตรปิฎกเป็นวิริยารัมภกถา (ถ้อยคำที่เป็นไปเพื่อเริ่มความเพียร) ทำให้แต่ละท่านเข้าใจสภาพจิตของตนเอง มีความเพียรที่จะอบรมเจริญกุศล เพื่อจะขัดเกลาอกุศล พร้อมกับการอบรมเจริญสติปัฏฐาน (ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ) เป็นปกติในชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล

~ ถ้าเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริง ก็จะเห็นชัดว่ากำลังก้าวไปสู่อะไร ไปสู่เหวที่จะตกลงไปลึกๆ จะไปสู่ห้วงน้ำใหญ่ หรือจะขยับให้พ้นจากทางนั้น หรือเห็นว่าวันหนึ่งๆ ก้าวไปสู่ทางที่ทำให้มัวเมามากกว่าจะก้าวไปสู่ทางที่จะสร่างจากความเมา
~ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมเลย ทุกวันจะถูกครอบงำด้วยอกุศล ซึ่งเหมือนกับสลบไสลไปด้วยความมัวเมา ไม่มีวันสร่าง แต่เมื่อใดมีความเข้าใจพระธรรม และพิจารณารู้ความคิดของตนเอง ก็จะเห็นได้ว่า ทางที่ควรก้าวไปนั้นควรเป็นกุศล มากกว่าจะให้มัวเมาโดยไม่สร่าง ~ ถ้าท่านจะสังเกตจากชีวิตของท่านเองโดยละเอียดขึ้น ก็จะรู้ได้ว่า กายกรรม คือ การกระทำทางกายวันหนึ่งๆ เป็นกุศลหรือเป็นอกุศลมาก หรือทางวาจา ซึ่งดูเหมือนกับว่า ก็ไม่ใช่เป็นภัยร้ายแรง แต่ขณะใดที่สติสัมปชัญญะเกิด จะรู้ได้ว่า บางขณะแม้แต่คำพูดนั้นก็พูดไปตามความคิดที่กำลังโกรธ คือ คำพูดนั้นเองพูดให้คนอื่นรู้ว่า ท่านกำลังโกรธ แม้ว่าจะไม่ใช้คำที่หยาบคาย เป็นอย่างนี้ไหม เวลาที่โกรธ เพราะฉะนั้นวาจาตามความคิด แม้ว่าจะไม่ใช่คำหยาบ แต่ก็ยังเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังรู้ว่า ท่านกำลังโกรธ
~ ความประพฤติของพระโพธิสัตว์ เกิดจากความคิดอย่างละเอียดมาก เห็นประโยชน์ของทุกอย่างที่เป็นกุศล มีสติสัมปชัญญะที่จะพิจารณาการกระทำทางกาย ทางวาจา หรือแม้แต่ความคิดในขณะนั้น แล้วสามารถมีความมั่นคงที่จะประพฤติปฏิบัติตาม
~ ในขณะที่ฟังพระธรรม ขณะนี้หมั่นไส้ใครบ้างหรือเปล่า เรื่องจริงๆ เลย ขณะที่ฟังพระธรรมแท้ๆ ยังหมั่นไส้ ยังไม่ได้ปฏิบัติตามพระธรรม ยังไม่ได้ละคลายอกุศล ยังไม่เลิกคิดหมั่นไส้ และขณะอื่นที่ไม่ได้ฟังพระธรรมจะเป็นอย่างไร
~ จิตใจเป็นเรื่องซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมที่เป็นอกุศลไว้มาก และที่เป็นกุศลไว้มาก สำหรับอัธยาศัยที่ต่างกัน ผู้ที่มีอัธยาศัยอ่อนโยน พระผู้มีพระภาคก็จะทรงแสดงพระธรรมเรื่องของกุศลทั้งหลาย แต่ผู้มีอุปนิสัยดื้อ หรือกระด้าง หรือว่าแข็ง ยังไม่อ่อนโยน ก็ต้องทรงแสดงเรื่องของอกุศลไว้มากๆ ให้เห็นโทษของอกุศล ถ้าจะระลึกได้ เคยโกรธใครไว้ เคยไม่ชอบใคร และในขณะที่กำลังฟังพระธรรมเดี๋ยวนี้คิดอย่างไร คือ ควรจะพิจารณาและได้ประโยชน์จากพระธรรม ถ้าขณะนี้คิดไม่ได้ ขณะอื่นก็คิดไม่ได้แน่ ขณะที่กำลังฟังพระธรรมแท้ๆ ยังไม่ยอม และขณะอื่นจะเป็นอย่างไร
~ ใครที่มักโกรธในชาตินี้ ให้ทราบว่าชาติก่อนๆ ก็ต้องมักโกรธ แล้วถ้าชาตินี้ยังมักโกรธอย่างชาตินี้ต่อไปอีก ก็ให้นึกถึงภาพชาติหน้าได้ว่าจะเป็นอย่างไร อยากจะเป็นอย่างนั้นต่อไป หรือว่าอยากเป็นอย่างอื่น ที่ไม่ใช่อย่างนี้ ถ้าอยากจะเป็นอย่างอื่น ก็ต้องเริ่มสะสมทางฝ่ายกุศลไว้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้

~ ไม่มีธาตุใดเลยที่จะเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตน เป็นวัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่มีธาตุใดเลยซึ่งเมื่อมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น แล้วก็จะไม่ดับไป หมดไป เพียงแต่ว่าเมื่อไม่รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ก็ยังมีความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมเหล่านั้นว่า เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ~ ถ้าเข้าใจถึงความละเอียดจริงๆ ถึงหนทางผิด ซึ่งทุกคนกำลังเดินอยู่ คือ หนทางที่ทำให้เกิดแล้วก็ตาย เกิดแล้วก็ตาย เกิดแล้วก็ตาย นั่นคือหนทางผิด เป็นมิจฉาปฏิปทา เพราะเหตุว่าไม่ใช่หนทางที่ทำให้สิ้นสุดการเกิดและการตาย ~ เรื่องของการอบรมเจริญกุศล เรื่องของการอบรมเจริญปัญญา ก็จะต้องประกอบพร้อมไปทุกอย่างเท่าที่สามารถจะเกิดได้ มิฉะนั้นก็จะเป็นผู้หนาแน่นด้วยอกุศล และยากจริงๆ ที่จะละคลายอกุศลนั้นได้
~ ต้องเป็นผู้ตรง ความเมตตาคือความเป็นมิตร ความเป็นมิตรตรงข้ามกับศัตรู พร้อมที่จะเกื้อกูล นี่คือมิตรจริงๆ แม้แต่แข่งดีก็ไม่ใช่มิตร ใครก็ตามที่คิดจะแข่งขันกัน หรือแข่งดีกัน ผู้นั้นถึงจะพูดเรื่องเมตตาสักเท่าไร แต่ผู้นั้นไม่เข้าใจเลยว่า ขาดเมตตา ไม่ใช่มิตรจริงๆ เพราะเหตุว่าเมตตาเป็นเพื่อนแท้ หวังดีด้วยประการทั้งปวง
~ ข้อสำคัญคืออย่าเห็นผิด อย่ายึดถือข้อปฏิบัติที่ผิด ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ด้วยการพิจารณาว่า ธรรมใดเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสรู้และทรงแสดง ไม่ใช่เลื่อมใสโดยง่าย หรือว่าเชื่อทุกคนที่พูดถึงเรื่องของการปฏิบัติธรรม แต่จะต้องพิจารณาในเหตุผล เพื่อที่จะได้ไม่เห็นผิดและไม่ปฏิบัติผิด
~ คนฉลาดหรือผู้ที่เป็นบัณฑิตย่อมเห็นภัย เห็นโทษของความเห็นผิด เพราะเหตุว่าความเห็นผิดเป็นอันตรายอย่างใหญ่ ซึ่งไม่ทำให้บุคคลนั้นพ้นจากความเห็นผิดนั้นได้ ไม่สามารถที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ ตราบใดที่ยังมีความเห็นผิดอยู่
~ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเป็นเรื่องสภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วคนที่ฟังยังดับกิเลสไม่ได้ แต่ว่ามีโอกาสที่จะเข้าใจพระธรรมขึ้น และเมื่อมีปัญญาเพิ่มขึ้น อกุศลจะค่อยๆ ละคลายไปเอง แต่ถ้าใครก็ตามที่ไม่มีปัญญา แล้วพยายามที่จะไปกัน ไปห้าม ไปดับอกุศล เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
~ ใครก็ตาม ถูกว่าร้ายต่างๆ กายวาจาไม่ดีต่างๆ แล้วก็โกรธ เพราะคิดว่าเขาว่าร้าย หรือเพราะการกระทำของเขาไม่ดี แต่ลืมไปว่า ความโกรธอยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ภายนอกเลย เพราะฉะนั้น จะน้อมธรรมเข้าใจในใจ ก็คือเมื่อฟังแล้วเกิดปัญญา ควรโกรธหรือไม่ควรโกรธ น้อมมาหรือยังที่จะไม่ควรโกรธอีกต่อไป หรือว่าเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ไม่โทษคนอื่นเลย เพราะความโกรธของเราไม่ใช่อยู่ที่คนอื่น แต่อยู่ที่ใจของแต่ละคน จะมากจะน้อยอยู่ที่สะสมมา ปรากฏให้เห็นก็ไม่เห็น ไปเห็นว่าคนอื่นไม่ดี คนอื่นไม่ดีนั้นเรื่องของเขา
~ ธรรมที่เป็นอกุศล ใครจะอยากเก็บไว้มากๆ แต่เพราะความไม่รู้
ด้วยความไม่รู้นั่นแหละก็สะสมโดยไม่เห็นโทษภัย

~ เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้วจะบอกว่า ไม่รู้พระวินัย ไม่ได้
~ พระธรรม ยิ่งเข้าใจ ยิ่งละความติดข้อง
~ พระธรรม เกื้อกูลให้ดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร เพราะปัญญา ไม่ผิด ปัญญา
ไม่นำพาไปในทางที่ผิด
~ ไม่มีใครสามารถที่จะเอาอกุศลที่สะสมมาในจิตของตัวเองออกทิ้งหมดไปได้เลย นอกจากปัญญาที่ค่อยๆ เกิดขึ้น.

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ


ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๓๐

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย Wisaka  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย j.jim  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย Boonyavee  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย thilda  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย Thanapolb  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณและอนุโมทนาครับอ.คำปั่น สำหรับ ปันธรรม...เพื่อปัญญธรรม

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 6    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 24 ม.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มีหนทางอื่นไหม นอกจากฟังให้เข้าใจ?

.........

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ครับ


ความคิดเห็น 7    โดย wirat.k  วันที่ 25 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 25 ม.ค. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 25 ม.ค. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย Noparat  วันที่ 25 ม.ค. 2559

~ ไม่มีใครสามารถที่จะเอาอกุศลที่สะสมมาในจิตของตัวเองออกทิ้งหมดไปได้เลย นอกจากปัญญาที่ค่อยๆ เกิดขึ้น.

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย jaturong  วันที่ 25 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย ปวีร์  วันที่ 26 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 13    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 26 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย kullawat  วันที่ 27 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 27 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 16    โดย เมตตา  วันที่ 28 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 17    โดย nong  วันที่ 10 ก.พ. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 18    โดย kukeart  วันที่ 21 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 19    โดย p.methanawingmai  วันที่ 25 พ.ย. 2559

สาธุค่ะ


ความคิดเห็น 20    โดย มกร  วันที่ 27 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ