พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ หน้า๓๖๗
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสพระคาถานี้ว่า
"ความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว หาความเศร้าโศกมิได้ หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ผู้ละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้แล้ว"
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า คตทฺธิโน ได้แก่ผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว.ชื่อว่าทางไกลมี ๒ อย่าง คือ ทางไกลคือกันดาร ทางไกลคือวัฏฏะ, บรรดาทางไกล ๒ อย่างนั้น ผู้เดินทางกันดาร ยังไม่ถึงที่ที่ตนปรารถนาเพียงใด ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเรื่อยไปเพียงนั้น แต่เมื่อทางไกลนั้นอันเขาถึงแล้ว ย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีทางไกลอันถึงแล้ว ฝ่ายสัตว์ทั้งหลายแม้ผู้อาศัยวัฏฏะ ยังอยู่ในวัฏฏะเพียงใด ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเรื่อยไปเพียงนั้น มีคำถามสอดเข้ามาว่าเพราะเหตุไร แก้ว่าเพราะความที่วัฏฏะอันตนยังให้สิ้นไปไม่ได้ แม้พระอริยบุคคลทั้งหลายมีพระโสดาบันเป็นต้น ก็ชื่อว่าผู้เดินทางไกลเหมือนกัน ส่วนพระขีณาสพ (ผู้สิ้นอาสวะ พระอรหันต์) ยังวัฏฏะให้สิ้นไปได้แล้วดำรงอยู่ ย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีทางไกลอันถึงแล้ว
ส่วนพระขีณาสพ (ผู้สิ้นอาสวะ พระอรหันต์) ยังวัฏฏะให้สิ้นไปได้แล้วดำรงอยู่ ย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีทางไกลอันถึงแล้ว
...ขออนุโมทนาค่ะ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอขอบพระคุณอาจารย์ คำปั่น ที่ขยายความให้เข้าใจครับและขอ
อนุโมทนาในกุศลเจตนาของอาจารย์ด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
ยังเป็นผู้ต้องเดินทางอีกแสนไกล จึงต้องฟังพระธรรมด้วยความเคารพและอดทนต่อไป
กราบบูชาพระคูณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์เป็นอย่างสูง
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในกุศลเจตนาของอาจารย์คำปั่นด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น