ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะความจริงจะเปลี่ยนให้ไม่จริงก็ไม่ได้ ใครจะเห็นอย่างไร คิดอย่างไร จะอยู่ในยุคสมัยไหน แต่ผู้ที่เข้าใจพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว จะไม่คิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขความจริง ไม่คิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระธรรมวินัย ที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้ดีแล้ว แต่ว่าจะ ศึกษาให้เข้าใจได้ถูกต้องเท่านั้นเองเป็นผู้ตรงต่อความจริง
เชิญคลิกชม ...
รายการบ้านธัมมะ 23 เมษายน 2565 เรื่อง สัจจบารมี
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
ที่จะค่อยๆ เข้าใจในความเป็นพระสุคต หรือความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเห็นถึงความประเสริฐยิ่งของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ซึ่งเป็นวินัยของพระสุคตคืออย่างไร!!!
การเข้าใจธรรมะต้องมาจากความละเอียดอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าธรรมะที่คนอื่นจะเข้าใจได้จากพระโอษฐ์ที่พระองค์ตรัส ... ต้องอบรมความเป็นผู้ละเอียดอย่างยิ่ง ... ในการที่จะละกิเลสซึ่งมากมายเหลือเกิน ... ชาตินี้ละไม่หมดแน่ ... แต่ค่อยๆ เริ่มที่จะละโดยความลึกซึ้ง ... ต้องไม่ลืมว่าลึกซึ้ง!!
เมื่อผู้ใดได้เข้าใจความลึกซึ้ง ... สิ่งที่เป็นประโยชน์ คือ ไม่ละเลยสักคำเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ... ที่เห็นความลึกซึ้งอย่างยิ่งของพระธรรม โดยเฉพาะเป็นคำที่ตรัสด้วยพระองค์เอง ... จะไม่ลึกซึ้งได้อย่างไร!!
นับถือพุทธศาสนาแต่ไม่เข้าใจเลย ... จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม!!! ... ไม่ลึกซึ้งแล้วจะเอาอะไรไปดำรงพระศาสนา เพราะฉะนั้นเพียงแต่คิดตามที่พระองค์ตรัสไว้ ... ก็ต้องเป็นผู้ละเอียดอย่างยิ่งว่า ถ้าไม่เข้าใจคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้จริงๆ จะไม่เห็นความลึกซึ้งของพระองค์เลย
คนที่จะเห็นความลึกซึ้งต้องเป็นผู้ที่เข้าใจแต่ละคำ สุคโต : พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปดีแล้ว ... ไปไหน ... ที่ดีแล้ว ... ดีที่สุดคือไม่มีกิเลส!!! ประเสริฐยิ่งไปกว่านั้น คือ ประกอบด้วยพระญาณต่างๆ ซึ่งสามารถจะเป็นประโยชน์ที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจพระธรรมด้วย
เสด็จไปสวรรค์บ้างหรือเปล่า ... แสดงธรรมะด้วยหรือเปล่าที่นั่น ... โปรดพระพุทธะมารดาที่ไหน ... ถ้าไม่ถึงความประเสริฐเลิศอย่างยิ่ง ประกอบด้วยพระญาณต่างๆ จะเป็นอย่างนี้ได้ไหม!!!
ไม่ว่าโลกไหนกี่โลกก็ตาม ที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังพระธรรม พระองค์เสด็จไปดีแล้วประการหนึ่ง ... นอกจากหมดกิเลสแล้ว ก็ทรงเสด็จไปดีแล้วด้วยการแสดงพระธรรมให้คนอื่นได้สามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่ลึกซึ้งยิ่ง ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ไม่สามารถรู้ได้ว่า พระธรรมลึกซึ้ง ... ยากจะรู้ได้โดยเฉพาะหนทางละกิเลส
กิเลสนั้นมีมาก แต่หนทางละไม่ง่ายเพราะว่าถ้าไม่เห็นกิเลส จะละกิเลสได้อย่างไร ... ก่อนอื่นจึงต้องเป็นผู้ตรง บารมีทั้ง 10 ขาดไม่ได้เลยสักอย่างเดียว!!!
แม้แต่ในเบื้องต้น รู้พระคุณจึงศึกษาใช่ไหม!!! คนที่ไม่ศึกษารู้คุณหรือเปล่า ... ต้องเป็นคนที่ตรง ... รู้คุณจึงศึกษา เห็นคุณว่า ธรรมะละเอียดอย่างยิ่ง จะศึกษาเพียงคร่าวๆ เหมือนเข้าใจทุกสิ่งอย่างไปหมด ... เป็นไปไม่ได้!!! แม้คำเดียวยังต้องไตร่ตรองแล้วไตร่ตรองอีก ... แล้วเข้าใจตรงนี้แล้วเข้าใจตรงโน้นอีก
แม้แต่การละกิเลสเดี๋ยวนี้มีหรือเปล่า ... ศึกษาจากหนังสือหรือตำราทั้งหมดอยู่ในนั้นหมดเลย แต่ถ้ารู้ว่าทุกคำกล่าวและจารึกไว้เป็นตัวหนังสือ เพื่อที่จะได้ไม่ลืม สามารถที่จะทบทวนได้เว้นวรรคโดยวิธีไหนก็ตาม ... เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ... จริงไหม!!!!!
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
ถ้าพูดถึงสัจจบารมี ต้องมีปัญญาถึงสามารถตรงได้ เพราะปัญญาตรงต่อความจริง
จากการศึกษาพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ ถ้าจะหยิบยกคำใดก็ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก อรรถกถา ต้องมีความเข้าใจคำนั้นๆ ถึงสามารถกล่าวความจริงที่ทรงแสดงไว้ได้อย่างถูกต้อง
... ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า พระธรรมลึกซึ้งยากที่จะรู้ได้ โดยเฉพาะหนทางละกิเลส
กิเลสนั้นมีมาก แต่หนทางละไม่ง่าย เพราะว่าถ้าไม่เห็นกิเลส จะละกิเลสได้อย่างไร
ก่อนอื่นจึงต้องเป็นผู้ตรง บารมีทั้ง 10 ขาดไม่ได้เลยสักอย่างเดียว ...
แนะนำหนังสือ ...
บารมีในชีวิตประจำวัน
โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์
... เวรย่อมระงับด้วยกำลังแห่งขันติ ...
ภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
อธิษฐานบารมี
คืออย่างไร ... เป็นการขอหรือไม่ ... เชิญคลิกอ่านหาคำตอบได้ค่ะ
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
ขอเชิญรับฟัง
บารมีในชีวิตประจำวัน
ท่านบำเพ็ญบารมีที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจธรรมหรือเปล่า หรือว่าท่านมีแต่ความปรารถนาที่อยากจะให้สติเกิด อยากจะให้ปัญญารู้ชัด ซึ่งเป็นเพียงความอยากโดยขาดการระลึกถึงบารมี ซึ่งจะเกื้อกูลในการที่จะขัดเกลากิเลส และในการเพิ่มกำลังที่จะทำให้สติ และปัญญาสามารถที่จะละคลายดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท