กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพ
ผมได้สรุปของผมเองน่ะครับว่า การทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องของฆราวาสและพระภิกษุสงฆ์เกิดจากความไม่รู้ ซึ่งความไม่รู้เกิดจากการขาดปัญญา ปัญญาจะเกิดขึ้นได้จากการฟังธรรมในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ผู้ที่เราแนะนำให้เขาฟังรายการบ้านธรรมะ แล้วเขาก็อาจจะฟังหรือไม่ฟัง สิ่งเหล่านี้เกิดจากอะไรครับ
การที่เขาไม่ฟัง ก็เพราะความไม่รู้เช่นกัน ครับ เพราะ ไม่เห็นถูก ก็จึงไม่ฟัง ขณะที่ไม่ฟัง ไม่เห็นถูก เป็นอกุศล มี มีอวิชชาในขณะนั้น มีความไม่รู้ในขณะนั้น ครับ
เพราะไม่รู้ จึงอยู่มาในหล้าโลก
เพราะไม่รู้ คืออวิชชาที่ไม่รู้ความจริงของสภาพธรรม ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ย่อมไม่สามารถดับกิเลสได้ อันเป็นต้นเหตุของการเกิด จึงอยู่มาในโลก คือ คือ ภพภูมิต่างๆ เกิด ตายไม่มีที่สิ้นสุด
เพราะไม่รู้ จึงเศร้าโศกในสงสาร
เพราะไม่รู้ คือ อวิชชา ที่เป็นหัวหน้าของอกุศลธรรมทั้งหลาย คือ เป็นเหตุให้เกิดโลภะ โทสะ เศร้าโศก เสียใจ ทุกข์ทางกายมากมาย เพราะ อวิชชา ความไม่รู้เป็นเหตุ ในสงสาร คือ ในการเกิดตายในสังสารวัฏฏ์
เพราะไม่รู้ จึงเป็นเราเขลามานาน
เพราะไม่รู้ อวิชชา จึงยึดถือว่าเป็นเรา ด้วยความยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคลขณะนั้นเขลา เพราะ ไม่เข้าใจ ความจริง เข้าใจผิด และ เขลามานาน เพราะ ตราบใดที่ไม่มีปัญญา ก็เขลาตลอดมาแล้วในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน
เพราะไม่รู้ จึงคบพาลเผาผลาญตน
เพราะไม่รู้ มีอวิชชา จึงคบคนผิด เพราะ ไม่มีปัญญา ที่รู้ว่า คนพาล บัณฑิต คืออย่างไร ใจก็ย่อมไหลไปตามกระแสกิเลส ความไม่รู้ เป็นต้น ก็คบ เสพคุ้นกับ พาล เพราะ คบพาลทั้งภายใน คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในจิตใจ และ คบพาล คือ บุคคลที่สมมติว่าเป็นพาล เพราะ มากไปด้วยความไม่รู้ ความเห็นผิด ในจิตใจ เผาผลาญบุคคลที่คบกับบุคคลที่เห็นผิด ให้เห็นผิดตามไปด้วย เผาผลาญความดีของตนเองในขณะนั้น
เพราะรู้คุณ ของพระธรรมจึงร่ำเรียน
เมื่อได้ฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เกิดปัญญา ค่อยๆ เข้าใจถูก ก็เห็นคุณของพระธรรม ที่เป็นสิ่งที่มีค่า อันเป็นไปเพื่อละกิเลส จึง ศึกษาพระธรรมต่อไปร่ำเรียนต่อไป
เพราะรู้ธรรม จึงพร่ำเพียรเพิ่มกุศล
เพราะ รู้ธรรม คือ เข้าใจพระธรรม เกิดปัญญา ปัญญาหรือ วิชชา เป็นหัวหน้าของกุศลธรรม คือ เป็นปัจจัยให้เกิด กุศลธรรมประการต่างๆ เพิ่มขึ้น เพราะ มีความเข้าใจถูก ก็ทำให้คิดถูก วาจา กาย และ อื่นๆ ก็ถูกตาม ไปด้วย กุศลประการต่างๆ ก็เจริญตามปัญญาที่เพิ่มขึ้น
เพราะรู้ชัด จึงไม่ใช่สัตว์บุคคล
เพราะรู้ชัด คือ ปัญญาที่เกิดรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้น มีเพียงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นไม่มีเรา ไม่มีใคร เพราะ มีเพียงธรรม จึงไม่ใช่สัตว์ บุคคล
เพราะรู้ละ ตัวตนจึงพ้นภัย
เพราะ รู้ คือ ปัญญาที่เกิดรู้ความจริงของสภาพธรรม อันเป็นหนทางเดียวที่จะดับกิเลส ที่เป็นสติปัฏฐาน 4 ขณะที่เจริญสติปัฏฐาน รู้ความจริงของสภาพธรรม ว่าไม่ใชเรา ก็ค่อยๆ ละความไม่รู้ และ จนในที่สุด ก็พ้นภัย ภัย คือ กิเลส และ พ้นภัยคือ การเกิดในสังสารวัฏฏ์ได้ในที่สุด
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่มีทางที่จะเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริงได้ ความไม่รู้ ก็มีมาก สะสมมามากในสังสารวัฏฏ์ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ยิ่งจะสะสมความไม่รู้เพิ่มมากยิ่งขั้น ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ก็ทำในสิ่งที่ผิดๆ ยิ่งถ้าเป็นพระภิกษุ ก็ประพฤติผิดพระวินัย ล่วงสิกขาบทต่างๆ เห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของธรรม ไม่มีความเคารพยำเกรงในพระธรรมวินัย ทำทางให้ตนเองไปเกิดในอบายภูมิ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง คฤหัสถ์ที่ไม่เข้าใจพระธรรม ก็ทำในสิ่งที่ผิดๆ ทำอกุศลกรรมประการต่างๆ อันเนื่องมาจากความไม่รู้ ความเห็นผิดก็ยังมี และ การกระทำต่างๆ ที่มีต่อพระภิกษุ ก็เป็นการกระทำที่เป็นเหตุให้พระภิกษุ ต้องอาบัติ เป็นประหนึ่งผลักพระภิกษุ ให้ลงนรก อย่างเช่น กรณี ถวายเงินทองแก่พระภิกษุ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ที่พึ่งจริงๆ คือ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ที่จะต้องมีความจริงใจ ที่จะฟังที่จะศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระองค์ทรงแสดง ประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ และ บรรพชิต ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ไม่ใช่ทุกคนจะสนใจฟังธรรม ต้องเป็นผู้ที่เคยทำบุญไว้แต่ปางก่อนจึงฟังธรรมะ และกว่าจะละความเป็นตัวตนเป็นเราแสนยากค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ มีพระธรรมอันประเสริฐสุดที่ได้อ่านได้ฟังค่ะก็เกิดกุศลจิตแล้ว
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลค่ะ